จุรินทร์ เผยหลังการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ที่ประชุมเห็นชอบเดินหน้าขับเคลื่อน Bangkok Goals on BCG Model พร้อมเน้น Open “เปิดกว้างการค้า-ลงทุน ดัน FTAAP” ก่อนส่งไม้ต่อสหรัฐอเมริกา เจ้าภาพปี 2023
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ประจําปี 2022 (APEC Ministerial Meeting 2022: AMM) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันในการขับเคลื่อน Bangkok Goals on BCG Model ที่เรียกว่าเป้าหมายกรุงเทพ พร้อมที่จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมระดับผู้นำเอเปค ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 นี้
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
พร้อมกันนี้ ในที่ประชุมยังได้เห็นพ้องในการจัดทำ เขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก หรือ Free Trade Area of the Asia-Pacific (FTAAP) อีกด้วย
อย่างไรก็ดี ในการประชุมยังได้มีการพิจารณาในหัวข้อสำคัญ คือ Open Connect Balance ซึ่งมีสาระสำคัญในหลายเรื่อง อย่าง Open ได้สรุป 6 ประเด็นสำคัญ
1.ที่ประชุม เห็นพ้องในการเปิดกว้างทางด้านการค้า การลงทุน เพื่อให้ห่วงโซ่อุปทาน ห่วงโซ่การผลิตหรือซัพพลายเชนสามารถทำงานได้
2. ที่ประชุมเห็นพ้องกันที่จะขับเคลื่อนความร่วมมือเศรษฐกิจเอเปคไปสู่การจัดตั้ง FTA เอเปคต่อไปในอนาคต
3.ที่ประชุมพร้อมที่จะสนับสนุนการค้าในระบบพหุภาคีโดยให้มี องค์การการค้าโลกหรือ WTO เป็นศูนย์กลางและเร่งหาข้อสรุปในประเด็นที่ค้างคาอยู่ใน WTO ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการอุดหนุนประมง รวมทั้งเสริมประเด็นใหม่ๆที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของ WTO ให้เกิดขึ้นต่อไป
4.ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันในการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันด้านบริการของกลุ่มสมาชิกเอเปค เรื่องท่องเที่ยวขนส่งหรือโลจิสติกส์
5.ที่ประชุมเห็นพ้องกันในการผลักดันและเปิดโอกาสให้สตรี ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (ไมโครเอสเอ็มอี) กลุ่มเปราะบาง เข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากขึ้น รวมทั้งในการใช้ประโยชน์จากเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Digital Economy และ6.ที่ประชุมเห็นพ้องในการสนับสนุนแนวคิดการค้าสู่ความยั่งยืน ทั้งทางด้านสินค้าและบริการ สนับสนุนทั้งการผลิต การแปรรูป การตลาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ด้านนายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สาระสำคัญที่ประชุมได้มีการหารือถึงสถานการณ์ราคาพลังงานที่ทรงตัวสูง ความมั่งคงด้านอาหาร รวมถึงปัญหาซัพพลายเชนหยุดชงักในช่วงโควิดที่ผ่านมา โดยมองว่าปัญหาดังกล่าวสามารถนำหลักการ BCG ได้เเก่เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียวมาเป็นหลักการเพื่อกำหนดกรอบการทำงานทั้งเพื่อแก้ปัญหาปัจจุบันและความท้าทายใหม่ในอนาคต
ทั้งนี้ ประเด็น BCG ที่ได้ถูกเริ่มต้นขึ้นที่ประเทศไทยจะถูกนำไปสานต่อในการประชุมAPEC ครั้งหน้าปี 2023ที่จะมีขึ้นที่สหรัฐ เพื่อให้เกิดผลต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือในส่วนของ หัวข้อย่อยการประชุม “Connect”ที่ประชุมเห็นว่าควรถอดบทเรียนจากโควิดเพื่อสร้างระบบการเชื่อมโยงกันในภูมิภาคที่ปลอดภัยแต่ไร้พรมแดน โดยไม่เน้นเฉพาะปัญหาโรคโควิดเท่านั้นแต่รวมถึงปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
“เรามี APECBusinessTravelCardหรือ ABTC ซึ่งที่ประชุมเห็นว่ามีความจำเป็น แต่เราก็มองว่าจะเดินทางกันอย่างไรให้ปลอดภัย และมีความเป็นSmart Mobility ซึ่งเรามองไปในระยะยาวให้เกิดความคล่องตัวและปลอดภัยด้วย”
ที่ประชุมยังเห็นด้วยถึงการเดินหน้เชื่อมโยงด้านดิจิทัล ทั้งเพื่อสร้างการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม(SMEs)และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ แต่ได้ให้ความเห็นเพิ่มว่าควรมีความยืดหยุ่นในแผนการพัฒนาที่มากขึ้น