
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงกว่า 2% หลังกิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐยังคงหดตัวต่อเนื่อง
วันที่ 25 มกราคม 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงกว่า 2% หลังสหรัฐประกาศตัวเลขดัชนีภาคการผลิต (Composite PMI) เดือน ม.ค. 65 ที่ระดับ 46.6 ซึ่งต่ำกว่าระดับ 50 บ่งบอกถึงการหดตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน โดย S&P Global เผยกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ดีนักจากอุปสงค์ที่ยังคงอ่อนตัว
- ประกาศใหม่ ผลประโยชน์ตอบแทนบำเหน็จชราภาพ ผู้ประกันตน ม.33,39
- ไทยพาณิชย์ เตือนลูกค้าอัพระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ตั้งแต่ 24 มี.ค.
- ยุบสภา บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้สิทธิ 1 เม.ย.ตามเดิมหรือไม่ คลังชี้แจงแล้ว
ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.นี้ เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นด้วยอัตรา 0.25% เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 24 ม.ค. 2566 อยู่ที่ 80.13 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -1.49 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 86.13 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -2.06 เหรียญสหรัฐ
อุปทานน้ำมันดิบในตลาดยังคงมีแนวโน้มตึงตัว โดยนักวิเคราะห์คาดว่าในการประชุมวันที่ 1 ก.พ. กลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) จะยังคงแผนการผลิตเดิมที่มีการลดปริมาณการผลิตลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่อเนื่องไปจนถึงการประชุมหลักครั้งถัดไปในเดือน มิ.ย. ขณะที่อุปสงค์น้ำมันเชื้อเพลิงในจีนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหลังจากเปิดประเทศ
หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ม.ค. 66 ปรับเพิ่มขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 1 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ตลาดปิด เนื่องจากวันหยุดตรุษจีน
ราคาน้ำมันดีเซล
ตลาดปิด เนื่องจากวันหยุดตรุษจีน