
WHA เตรียมเปิดดีลใหญ่อีก 1 รายใหม่ กับค่ายรถยนต์ EV รายใหม่ทำยอดขายที่ดินในนิคมฯ ในประเทศ ปี 2566 ทะลุ 1,200 ไร่ พร้อมเปิดแผนลงทุน 5 ปี ทุ่ม 68,500 ล้านบาท ปั้นรายได้ 5 ปี 100,000 ล้านบาท มุ่งสู่ธุรกิจกรีนทุกมิติ
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากปี 2565 บริษัทปิดยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม 600 ไร่ ให้กับทาง BYD ค่ายรถยนต์รายใหญ่จากจีน เพื่อตั้งโรงงานรถ EV แล้วนั้น
- อนุทินอัพเดตทรัพย์สินภรรยาคนที่ 3 “วธนนนท์” ค้างค่าหย่าภรรยาคนที่ 2
- เปิดภาพโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ติดถนนวิภาวดีรังสิต
- STARK สะเทือนตลาดหุ้นกู้ นักลงทุนเกือบ 5 พันรายช็อกเจอเบี้ยวหนี้
ส่งผลให้ทั้งปีปิดยอดขายที่ดินได้ 1,860 ไร่ (ในไทย 1,754 ไร่ ในเวียดนาม 106 ไร่) และเร็ว ๆ นี้ซัพพรายเชนของ BYD อยู่ระหว่างการพิจารณาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมดีบบลิวเอชเอ 36 เฟส 2 อีกประมาณ 400 ไร่ เพื่อตั้งฐานการผลิต ประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ EV เช่น แบตเตอรี่
นอกจากนี้บริษัทเตรียมเปิดดีลกับค่ายรถยนต์รายใหม่อีก 1 ราย ซึ่งเป็นรายใหญ่คาดว่าจะเป็นส่วนทำให้ยอดขายที่ดินในนิคมฯ ปี 2566 นี้อยู่ที่ 1,750 ไร่ (ในไทย 1,200 ไร่ ในเวียดนาม 550 ไร่)
ซึ่งแน่นอนว่าธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ยังคงโตโดดเด่นอย่างมาก ในส่วนของธุรกิจอื่น ๆ คือ ธุรกิจโลจิสติกส์จะมุ่งไปสู่การเป็นกรีนโลจิสติกส์ หรือการนำเทคโนโลยีอย่างแพลตฟอร์ม รถ EV เข้ามาช่วยในระบบจัดการคลังสินค้า ซึ่งจะทำให้เกิดความ Smart ในทุกด้าน และยังลดต้นทุนได้ถึง 25%
ส่วนธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงานปี 2566 จะมี 2 โครงการจัดหาน้ำดิบ กำลังการผลิตรวม 10 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี รองรับลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม ควบคู่ไปกับการหาตลาดใหม่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจ New s-curve อาทิ ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ การซื้อขายคาร์บอนและการใช้และกักเก็บคาร์บอน (CCUS) รวมถึงไฮโดรเจน และยังตั้งเป้าสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ที่ลงนามแล้ว 847 เมกะวัตต์ เพิ่มจาก 683 เมกะวัตต์ในปี 2565
สำหรับธุรกิจดิจิทัล บริษัทเริ่มทำแอปพลิเคชัน WHAbit หรือโซลูชันสำหรับดิจิทัลเฮลธ์แคร์ และเตรียมกำหนดเปิดตัวเวอร์ชัน 2 ในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 ด้วยฟีเจอร์การแสดงข้อมูลด้วยภาพ (Data Visualization) และคำแนะนำส่วนบุคคล นอกจากนี้ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ยังวางแผนที่จะเปิดตัว Meta W ซึ่งเป็นเมตาเวิร์สด้านอุตสาหกรรมรายแรก ที่ได้รับการออกแบบ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า สร้างโอกาสใหม่ๆ
เราวางแผนระยะยาว 5 ปี (2566-2570) เตรียมเงินลงทุนไว้ 68,500 ล้านบาท โดยเป็นงบลงทุนสำหรับ 4 กลุ่มธุรกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ได้แก่ โลจิสติกส์ จำนวน 17,000 ล้านบาท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ 29,000 ล้านบาท WHAUP 18,500 ล้านบาท และดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล 4,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีรายได้ถึง 100,000 ล้านบาท
ปี 2565 เราได้เห็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการกลับมาของนักลงทุนต่างชาติ มีการเซ็นสัญญาดีลใหญ่ๆ และโครงการที่สร้างมูลค่าเพิ่มทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ทำให้เราสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งต่อไป ด้วยกลยุทธ์ธุรกิจของดับบลิวเอชเอ ทำให้เรามั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะสามารถก้าวไปสู่การเป็น Technology Company ภายในปี 2567 และมีการเติบโตอย่างยั่งยืนได้อย่างแน่นอน