“กากน้ำตาล” ไทยมาแรงสุด ครองตลาดญี่ปุ่น 74% จับตา “เป็ดสด” ดาวรุ่ง

“กากน้ำตาล” ไทยมาแรงสุด ครองตลาดญี่ปุ่น

สนค. พบ “กากน้ำตาล” มาแรง ครองส่วนแบ่งตลาดญี่ปุ่นสูงถึง 74% ส่วนเป็ดสด กำลังเป็นที่ต้องการ ขณะที่ สินค้าไก่ ยางพารา ต้องปรับแผนชิงส่วนแบ่งตลาดคืน

วันที่ 19 มีนาคม 2566 นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สำหรับเทรนด์สินค้าไทยในตลาดญี่ปุ่น พบว่า รายการสินค้าทั้งหมดที่ไทยส่งออกไปยังญี่ปุ่นมีสินค้าบางรายการที่ไทยเป็นผู้นำตลาด โดยสินค้า 3 อันดับแรก ได้แก่ กากน้ำตาล มีส่วนแบ่งตลาด 74% เป็ดสดแช่เย็นแช่แข็ง 64% และท่อนและเส้นทำด้วยทองแดง 59%

พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์

“ในตลาดญี่ปุ่น สินค้ากากน้ำตาล มีอนาคตดีมาก ขณะนี้ครองส่วนแบ่งตลาดได้สูงถึง 74% ตามด้วยเป็ดสดแช่เย็นแช่แข็ง 64% และท่อนและเส้นทำด้วยทองแดง 59% โดยเฉพาะเป็ดสดแช่เย็นแช่แข็งที่ถือเป็นดาวรุ่งมาก เพราะไม่เพียงแต่ส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม ยังแย่งชิงตลาดมาจากคู่แข่งได้”

ส่วนซอส จุกและฝาเกลียวก็เป็นสินค้าที่กำลังเติบโตดี ขณะที่ไก่ ยางพารา เริ่มถูกคู่แข่งเข้ามาแย่งชิง จึงต้องเร่งปรับตัว ผู้ส่งออกต้องปรับแผนกลยุทธ์การทำตลาด เพื่อให้ไทยยังคงส่งออกไปญี่ปุ่นได้เพิ่มขึ้น และรักษาส่วนแบ่งตลาดได้ต่อไป

เป็ดสด ดาวรุ่ง ตลาดญี่ปุ่น

นอกจากนี้ สินค้าที่เติบโตดีในตลาดญี่ปุ่น โดยมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 3 อันดับแรก ได้แก่ เป็ดสดแช่เย็นแช่แข็ง ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 23.7% ซอส เพิ่มขึ้น 11.3% และจุกและฝาเกลียว เพิ่มขึ้น 6.7%

ส่วนสินค้าที่ต้องจับตาคู่แข่งทางการค้า แม้สินค้าไทยยังคงส่งออกขยายตัวได้ก็ตาม ได้แก่ ไก่ ซึ่งญี่ปุ่นนำเข้าจากไทยขยายตัว 11.7%YOY จากมูลค่านำเข้าในปี 2564 ที่ 1,808.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 2,020.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 แต่พบว่าส่วนแบ่งตลาดลดลง 2.0% และยางพารา ซึ่งญี่ปุ่นนำเข้าจากไทยขยายตัว 7.4%YOY จากมูลค่านำเข้าในปี 2564 ที่ 428.56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 460.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 แต่พบว่าส่วนแบ่งตลาดลดลง 1.1%

สำหรับสินค้าที่ต้องปรับตัว เพราะไทยเริ่มสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับคู่แข่ง และญี่ปุ่นมีแนวโน้มนำเข้าสินค้าจากไทยลดลง โดยสินค้าที่ต้องปรับตัว 3 อันดับแรก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ส่วนแบ่งตลาดลดลง 1.8% สินค้าอุตสาหกรรมอื่น ๆ ลดลง 0.3% และเคมีภัณฑ์เบ็ดเตล็ด ลดลง 3.2%

ในปี 2565 ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 9 ของญี่ปุ่น มีส่วนแบ่งตลาดที่ 3.0% ขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.2% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และญี่ปุ่นนำเข้าสินค้าจากไทยเป็นมูลค่า 26,659 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แหล่งนำเข้าอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น คือ จีน รองลงมา คือ สหรัฐฯ และออสเตรเลีย

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ได้พัฒนาเว็บไซต์ “คิดค้า.com”เพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูลเศรษฐกิจการค้าเชิงลึกที่สำคัญของประเทศ

โดยปัจจุบันมี Data Analytics Dashboard เผยแพร่รวม 4 หัวข้อ ได้แก่ ข้อมูลเชิงลึก ด้านสินค้าเกษตร (Agriculture Dashboard) ข้อมูลเชิงลึกด้านเศรษฐกิจระดับจังหวัด (Province Policy Dashboard) ข้อมูลเชิงลึกด้านการค้าระหว่างประเทศ (Global Demand Dashboard) และข้อมูลเชิงลึก ด้านธุรกิจบริการ (Services Dashboard)

ผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม และสนใจเทรนด์และข้อมูลแนวโน้มสินค้าไทยในตลาดอื่น ๆ สามารถ
เข้าไปดูได้ที่คิดค้า.com หรือคลิกลิงค์ https://bit.ly/GD-country-demand หรือเพจเฟซบุ๊กสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า https://www.facebook.com/TPSO.MOC “เว็บไซต์คิดค้า มีอะไรมากกว่าที่คาดคิด”