GULF ออกหุ้นกู้ 2 หมื่นล้าน ต่อยอดธุรกิจพลังงานสะอาด ยอดจองซื้อพุ่ง 2 เท่า

GULF ออกเสนอขายหุ้นกู้ Green Bond ครั้งแรก 8,000 ล้านบาท ใช้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม-ขายหุ้นกู้ทั่วไป 12,000 ล้านบาทพร้อมกัน รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยมีแผนจะนำเงินที่ได้ไปใช้ในการขยายธุรกิจ เป็นเงินทุนหมุนเวียนและชำระคืนหนี้เดิม

วันที่ 30 มีนาคม 2566 นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า

GULF ออกเสนอขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือ Green Bond เป็นครั้งแรก มูลค่า 8,000 ล้านบาท ใช้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม รวมทั้งเสนอขายหุ้นกู้ทั่วไปอีก 12,000 ล้านบาทพร้อมกัน รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท

“การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทได้ออกเสนอขาย Green Bond เพื่อเน้นการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ไปใช้ในการชำระคืนเงินลงทุนในโครงการ Borkum Riffgrund 2 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งทะเลในประเทศเยอรมนี”

ทั้งนี้ การออก Green Bond ในครั้งนี้ เป็นไปตามกรอบหลักเกณฑ์การระดมทุนเพื่อโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Financing Framework) และได้ผ่านการให้ความเห็นโดยผู้สอบทานภายนอกที่เป็นอิสระ (Second Party Opinion) คือ DNV Business Assurance Australia Ltd.

โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมากจนบริษัทต้องเพิ่มมูลค่าเสนอขายเป็น 8,000 ล้านบาทจากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 5,000 ล้านบาท นอกจาก Green Bond ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนแล้ว การออกหุ้นกู้โดยรวมมูลค่า 20,000 ล้านบาทในครั้งนี้ ยังประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย

โดยได้รับการตอบรับอย่างดีด้วยยอดจองซื้อสูงกว่าเป้าหมายของบริษัทเกินกว่า 2 เท่าจากนักลงทุนทุกประเภท อาทิ กองทุนภายใต้การบริหารของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน, บริษัทประกันชีวิต, สหกรณ์, ธนาคารพาณิชย์ และนักลงทุนรายใหญ่ประเภทนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา

“ทางบริษัทต้องขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่สนใจและลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทในครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจของกัลฟ์”

ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ประกอบด้วย Green Bond 2 ชุด ได้แก่ อายุ 5 ปี จำนวน 4,500 ล้านบาท และอายุ 7 ปี จำนวน 3,500 ล้านบาท มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท ด้วยอัตราดอกเบี้ย 3.20% และ 3.59% ต่อปี ตามลำดับ และหุ้นกู้ทั่วไป 3 ชุด ได้แก่ อายุ 3 ปี จำนวน 4,100 ล้านบาท อายุ 4 ปี จำนวน 4,400 ล้านบาท

และอายุ 10 ปี จำนวน 3,500 ล้านบาท มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท ด้วยอัตราดอกเบี้ย 2.85%, 3.00% และ 3.92% ต่อปี ตามลำดับ โดยเฉลี่ยอัตราดอกเบี้ยคงที่เท่ากับ 3.28% และอายุเฉลี่ยหุ้นกู้เท่ากับ 5.6 ปี บริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “A+” แนวโน้ม “คงที่”

และหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับในระดับ “A” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด โดยบริษัทได้แต่งตั้งให้ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั่วไปและ Green Bond ในครั้งนี้