เอกชนรายใหญ่-เอสเอ็มอี หวั่นใจตั้งรัฐบาล 10 เดือนนานเกินไป ดอกเบี้ยพุ่ง หนี้เสีย ท่องเที่ยวพยุงเศรษฐกิจไม่อยู่-บางจากมองโอกาสตั้งรัฐบาลเร็วกว่า 10 เดือน หวังรัฐบาลใหม่บาลานซ์ความเสี่ยง จัดหาน้ำมันต้นทุนถูก
วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 นายนรเทพ บุญเก็บ เลขาธิการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า การตั้งรัฐบาลที่อาจจะลากยาว ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ เพราะดอกเบี้ยเดินทุกวัน กำลังซื้อชะงัก หากล่าช้ากำลังซื้อจะลดลงไปกระทบเศรษฐกิจ แบะภาวะหนี้ของประเทศแน่นอน โดยเฉพาะเอสเอ็มอีที่ค้าขายกับรัฐบาล
- มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล เปิดชื่อผู้ถือหุ้น-ผลประกอบการ
- 10 พฤษภาคม 2567 ขึ้นทางด่วนฟรี 60 ด่าน
- เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนพฤษภาคม 2567 เงินเข้าวันไหน เช็กที่นี่
“รอรัฐบาลใหม่ อีก 10 เดือนนานเกินไป เรื่องนี้อาจจะกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศ ไทยติดหล่มชุมนุมมาหลายปีแล้ว ไม่อยากให้มีเหตุการณ์นี้ เราหวังว่าจะให้เกิดสันติ”
และหากสถานการณ์ยืดเยื้อ รายได้จากการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะได้จะพยุงไม่อยู่ ดังนั้น เราขอให้มีรัฐบาลโดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดก็แล้วแต่ สมาพันธ์พร้อมรับทุกพรรคการเมือง ขอให้เป็นพรรคที่เห็นความสำคัญเรื่องเอสเอ็มอีก็เพียงพอ
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท บางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การคาดการณ์ว่าจะมีการตั้งรัฐบาลใหม่ในระยะเวลา 10 เดือนถือว่านานเกินไป แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เปลี่ยนทุกวัน ตอนนี้ก็ยังเป็นไปตามไทม์ไลน์ ซึ่งเป็นกำหนดระยะเวลาที่รัฐบาลธรรมนูญวางไว้
“รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาดูแลในเรื่องพลังงานจะต้องสร้างความสมดุลระหว่างความท้าทายด้านพลังงาน 3 ด้าน หรือ Energy Trilemma คือ ความมั่นคงทางพลังงาน การเข้าถึงพลังงานในราคาที่เหมาะสม และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งการหาน้ำมัน ต้นทุนน้ำมันราคาถูกก็จะส่งผลดีต่อประชาชน”
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ กล่าวว่า ทางโออาร์สามารถที่จะทำงานร่วมกันได้หมด ไม่ว่าเป็นตัวแทนแคนดิเดตจากพรรคการเมืองใด จะเข้ามาเป็นรัฐบาลใหม่
