BCPG ประกาศผลงานไตรมาส 2/2566 กำไรสุทธิ 183 ล้าน โต 14%

นิวัติ อดิเรก

บีซีพีจี เผยผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2566 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 183 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2566 จากการเริ่มรับรู้รายได้ของธุรกิจคลังน้ำมันในประเทศไทย รวมถึงมีรายได้เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น และโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว

วันที่ 9 สิงหาคม 2566 นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานบริษัทไตรมาสที่ 2 ปี 2566 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 183 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2566 จากรายได้ของธุรกิจคลังน้ำมันในประเทศไทยที่เริ่มรับรู้ในเดือนมิถุนายน และรายได้ที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นและโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ใน สปป.ลาว

ขณะที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว บริษัทมีกำไรสุทธิลดลงร้อยละ 67 เนื่องจากการรับรู้รายได้ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาวลดลง จากการหยุดผลิตไฟฟ้าเพื่อเตรียมการขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (Vietnam Electricity-EVN) ตั้งแต่ปลายปี 2565 และได้กลับมาผลิตไฟฟ้าเพื่อเริ่มส่งขายให้แก่ EVN ในครึ่งหลังของเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 201 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 61 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2566 เนื่องจากมีรายการพิเศษจากการรับรู้การกลับรายการขาดทุน จากการด้อยค่าของสินทรัพย์โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชิบะ 2 ประเทศญี่ปุ่น

และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิลดลงร้อยละ 39 เนื่องจากการหยุดผลิตไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว เพื่อเตรียมการขายไฟฟ้าไปยังเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการผลิตและเริ่มขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าเวียดนามครบตามกำลังการผลิตเรียบร้อยแล้ว

Advertisment

“ในครึ่งปีหลังของปี 2566 บริษัทจะรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มจำนวนจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ธุรกิจคลังน้ำมันในประเทศไทย และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่เราได้เข้าไปลงทุนในสหรัฐอเมริกาทั้งหมดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา” นายนิวัติกล่าวเพิ่มเติม