BAFS เติบโตต่อเนื่อง เปิดงบฯไตรมาส 2/2566 รายได้ 743 ล้านบาท

บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS)

​BAFS ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2566 รายได้ 743 ล้านบาท กำไร 10.7 ล้านบาท เคาะจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.08 บาท

วันที่ 15 สิงหาคม 2566 ​ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 บริษัทมีกำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท 10.7 ล้านบาท โดยมีรายได้จำนวนรวม 743 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 47 ของช่วงเวลาเดียวกันจากปีก่อน ส่งผลให้รายได้ในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,537 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 ของช่วงเวลาเดียวกันจากปีก่อน

ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล
ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล

โดยเป็นรายได้จากค่าบริการจำนวน 644 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นตามปริมาณน้ำมันอากาศยานที่กลุ่มบริษัทให้บริการตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจรวมของประเทศ ในขณะที่รายได้ค่าบริการขนส่งน้ำมันภาคพื้นดินและจัดเก็บน้ำมันของบริษัทย่อยเพิ่มขึ้นตามปริมาณน้ำมันรวมทุกผลิตภัณฑ์ของโครงการขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันไปภาคเหนือ (NFPT) รวมถึงรายได้จากธุรกิจพลังงานไฟฟ้า 85.5 ล้านบาท รายได้จากเงินปันผลการลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า และรายได้อื่น ๆ ของกลุ่มบริษัท

ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก โครงสร้างรายได้ของกลุ่มบริษัท (BAFS Group) แยกตามธุรกิจมาจากรายได้จากธุรกิจการบินร้อยละ 74 รายได้จากธุรกิจการให้บริการขนส่งน้ำมันทางท่อร้อยละ 12 และรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าร้อยละ 14 ซึ่งเป็นหนึ่งในการดำเนินงานตามกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจด้วยการลงทุนในธุรกิจประเภทอื่น ๆ ผ่านการดำเนินงานใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจการบิน กลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน และกลุ่มบริการธุรกิจ โดยมีเป้าหมายปรับสัดส่วนโครงสร้างรายได้ให้สมดุล

ล่าสุด บริษัท บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่คอร์เปอเรชั่น (BC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ BAFS ถือหุ้นร้อยละ 100 แจ้งการจัดตั้งบริษัท BAFS X Mongolia LLC บริษัทย่อยใหม่ ในประเทศมองโกเลีย

โดย BC ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 เพื่อประกอบธุรกิจโดยมีรายได้จากการถือหุ้นในบริษัทอื่นเป็นหลัก ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจการจัดเก็บน้ำมันและท่อขนส่งน้ำมันและธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าและบริการ โดยในเฟสแรกมีแผนนำร่องร่วมลงทุนธุรกิจโซล่าร์ฟาร์ม พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ กำหนดเปิดตัวภายในปี 2567

​นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้พิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างการงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2566) ในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท

โดยการกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 25 สิงหาคม 2566 และให้กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 8 กันยายน 2566 สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงและเสถียรภาพการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน