ผู้ประกอบการโรงสี ขอพาณิชย์คงมาตรการชดเชยดอกเบี้ย-ชะลอการขาย เพื่อซื้อข้าวเพิ่มขึ้น

นายรังสรรค์ สบายเมือง

ผู้ประกอบการโรงสีข้าว ขอกระทรวงพาณิชย์คงมาตรการชดเชยดอกเบี้ย-ชะลอสินเชื้อการขายข้าวหอมมะลิ ขณะที่โรงสีภาคอีสานเตรียมลงพื้นที่สำรวจปริมาณข้าวนาปี ตุลาคม 2566 นี้ คาดว่าผลผลิตจะลดลง 10% จากปีที่แล้ว เหตุฝนทิ้งช่วง

วันที่ 14 กันยายน 2566 นายรังสรรค์ สบายเมือง นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยว่า  ทางสมาคมได้ร่วมประชุมหารือกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถึงสถานการณ์ผลผลิตและราคาข้าว โดยทางสมาคมเองได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์ยังคงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงสี โดยเฉพาะเรื่องของมาตรการชดเชยดอกเบี้ย ยังคงต้องการให้มีการดำเนินการต่อไป โดยครั้งนี้ต้องการให้ชดเชยดอกเบี้ย 4% จากเดิม 3% เพราะต้องยอมรับว่าสถานการณ์ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น มีผลต่อการรับซื้อข้าวจากเกษตรกร

ทั้งนี้ หากสามารถช่วยเหลือได้ก็จะทำให้โรงสีไม่ต้องแบกภาระต้นทุนมาก ก็จะทำให้โรงสีสามารถซื้อข้าวจากเกษตรกรในราคาที่สูงขึ้นได้ ปัจจุบันราคาข้าวสาร (ข้าวเจ้า) ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 20.50 บาทต่อกิโลกรัม ในความชื้นที่ 25% สำหรับงบประมาณที่คาดว่าจะใช้ในการชดเชยดอกเบี้ยก็น่าจะอยู่ที่ไม่เกิน 700 ล้านบาท

นอกจากนี้ ก็ยังคงต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ยังคงโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี เพื่อชะลอการขาย ไม่ให้ข้าวออกมาพร้อมกันมากเกินไป และจะเป็นการช่วยพยุงราคาข้าวในตลาดด้วย สำหรับเป้าหมายปริมาณข้าวที่เก็บนั้นก็คาดว่าประมาณ 2.5 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่มีการชะลอเก็บอยู่แล้ว

นายรังสรรค์ สบายเมือง

ส่วนมาตรการลดค่าไฟ-ค่าน้ำมันของรัฐบาล ยอมรับว่าช่วยลดภาระต้นทุนให้กับผู้ประกอบการโรงสีเป็นอย่างมาก เนื่องจากค่าไฟถือเป็นต้นทุนหลักในการสีข้าว เพราะค่าไฟถือเป็นต้นทุนการผลิตประมาณ 40% นอกจากนั้นก็จะเป็นต้นทุนส่วนอื่น ๆ เช่น ค่าแรง เป็นต้น  อย่างไรก็ดี แม้มาตรการที่ออกมาจะยังช่วยลดต้นทุนที่ขึ้นมาแล้ว 30% ไม่ได้ แต่ก็รับว่าเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้กับผู้ประกอบการได้มากในตอนนี้

ด้านนายวิชัย ศรีนวกุล นายกสมาคมโรงสีข้าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า  มาตรการดังกล่าวก็ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์คงมาตรการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงสีให้สามารถรับซื้อข้าวจากชาวนาได้เพิ่มขึ้น และเร็ว ๆ นี้ทางสมาคมเองจะลงพื้นที่สำรวจผลผลิตข้าวนาปี 2566/67 ซึ่งจะเริ่มลงพื้นที่สำรวจในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2566 นี้ โดยมองว่าปริมาณผลผลิตข้าวนาปีครั้งนี้จะลดลง 10% เมื่อเทียบจากปริมาณข้าวปีที่แล้วซึ่งออกมาประมาณ 7 ล้านตันข้าวเปลือก ซึ่งเป็นผลมาจากฝนที่ทิ้งช่วง แต่อย่างไรก็ดี คงต้องรอการสำรวจกันอีกครั้ง