
บีซีพีจี (BCPG) เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 3/2566 มีรายได้รวมกว่า 1,500 ล้านบาท มีกำไรสุทธิที่ 565 ล้านบาท สูงขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว 180.8% โดยมีผลการดำเนินงานปกติที่ 492 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 169.2 จากช่วง High Season ของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น โรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว และโรงไฟฟ้าพลังงานลมในไทย การรับรู้รายได้เต็มไตรมาสของธุรกิจคลังน้ำมันในประเทศไทย และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐ
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท ในไตรมาส 3/2566 มีรายได้จากการดำเนินงานที่ 1,564 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2566 ซึ่งมีรายได้รวม 1,093 ล้านบาท
และเพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 1,544 ล้านบาท มีกำไรสุทธิที่ 565 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 492 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาส 2/2566 180.8% และ 169.2% ตามลำดับ
ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ของกลุ่มบริษัท เติบโตสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากการเข้าสู่ High Season ของฤดูกาลน้ำ ส่งผลให้โรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3A และ Nam San 3B ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้น
อีกทั้งในช่วงดังกล่าวในประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูมรสุม และประเทศญี่ปุ่นมีความเข้มของแสงที่เพิ่มขึ้น ทำให้โรงไฟฟ้าพลังงานลมในไทย และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น มีผลการดำเนินงานเติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อน
นอกจากนี้ ยังรวมถึงการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากการดำเนินงานของธุรกิจคลังน้ำมันในประเทศไทย และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มสูงขึ้นจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการก๊าซธรรมชาติใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง กำลังการผลิตรวม 426 เมกะวัตต์ และเป็นช่วงที่สหรัฐมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้น