ราคาน้ำมันดิบ (15 พ.ย.) ทรงตัว หลังความขัดแย้งตะวันออกกลางไม่กระทบอุปทานน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ทรงตัว หลังความขัดแย้งในตะวันออกกลางไม่กระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบ

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ทรงตัว หลังเหตุการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสไม่มีผลกระทบต่ออุปทานการผลิตน้ำมันดิบในภูมิภาค โดยการสู้รบยังคงอยู่ในพื่นที่ที่จำกัด และไม่มีการขยายความรุนแรงเพิ่มเติม ขณะที่สหรัฐเผยว่ากำลังเจรจาต่อรองกับกลุ่มฮามาสในการปล่อยตัวประกัน ที่ถูกทางกลุ่มจับตัวไปก่อนหน้า

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 14 พ.ย. 2566 อยู่ที่ 78.26 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.00 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 82.47 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.05 เหรียญสหรัฐ

ตลาดยังคงรอจับตาดูรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) หลังงดรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อปรับปรุงระบบ ขณะที่ตลาดคาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สิ้นสุดสัปดาห์ ณ วันที่ 10 พ.ย. 66 ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า

สกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลง หลังสหรัฐรายงานตัวเลขดัชนีผู้บริโภคเดือน ต.ค. 66 ไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อจากเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงและอาจส่งสัญญาณให้ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED อาจไม่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์ในอินเดียมีแนวโน้มปรับตัวลดลงหลังหมดเทศการ Diwali ขณะที่ตัวเลขการนำเข้าน้ำมันเบนซินในเวียดนามเดือน ต.ค. 66 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 18.3 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์จากแอฟริกาใต้ที่ยังคงอยู่ในระดับดี ท่ามกลางความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียที่ยังคงอ่อนแอ ประกอบกับอุปทานจากโรงกลั่นในภูมิภาคที่ส่งออกต่อเนื่อง เช่น เกาหลีใต้