
ภูมิธรรม รับข้อเสนอชาวไร่ ให้แก้ปัญหาเงินค้างจ่าย 8,000 ล้านบาท จากการตัดอ้อยสดปี 2566 ที่ผ่านมา พร้อมหารือทุกฝ่าย รับรู้ ก.อุตฯ คาดจะเสนอเข้า ครม.พรุ่งนี้ ขณะที่การปล่อยให้น้ำตาลเสรี พร้อมปลดล็อกหากทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับตัวแทนสมาคมชาวไร่อ้อย 37 แห่งทั่วประเทศว่า กระทรวงพาณิชย์พยายามหาจุดสมดุลในการแก้ไขปัญหาให้กับชาวไร่อ้อย ก่อนที่จะเริ่มต้นฤดูกาลผลิต 2566/2567 ที่จะถึงนี้ เพื่อประโยชน์กับทุกฝ่าย
ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติราคาอ้อยหน้าโรงงาน 2 บาทต่อกิโลกรัม ในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นต้นทุนการผลิตที่เกิดขึ้นจริงและยอมรับ แต่สิ่งที่ชาวไร่อ้อยยังคงต้องการให้รัฐบาลแก้ไข การใช้ชดเชย 2 บาทในการตัดอ้อยสดที่ยังคงค้างใช้กว่า 8,000 ล้านบาทในปีการผลิต 2564/2565 หรือในปีที่ผ่านมา
สำหรับในเรื่องนี้ หน่วยงานที่ดูแลภายใต้พระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งคาดว่าจะเสนอในการแก้ไขปัญหาให้ที่ ครม.พิจารณาในการหาเงินเข้ามาใช้ชดเชยค้างใช้ให้กับชาวไร่อ้อย คาดว่าน่าจะเข้า ครม.ในวันพรุ่งนี้ แต่ทั้งนี้ เราเป็นรัฐบาลเดียวกันก็พร้อมที่จะร่วมกันบูรณาการในการแก้ไขปัญหา
“เงินที่ยังค้างจ่ายในการชดเชยตัดอ้อยสดของชาวไร่อ้อยนั้น ต้องมีการหารือช่วยเหลือเพราะเป็นเงินลงทุนของชาวไร่ ที่ต้องใช้ และด้วยติดขัดการเบิกจ่ายงบประมาณ 2567 ซึ่งคาดว่าจะเบิกจ่ายได้จริงประมาณเดือนพฤษภาคม 2567 และปัจจุบันก็อยู่ระหว่างการทำงบประมาณปี 2568 ซึ่งในการหาเงินก็อาจจะพิจารณาหารือกับกระทรวงการคลังในการหาทางออกในเรื่องนี้”
ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมที่จะเร่งดำเนินการแก้ไขให้ได้โดยเร็ว ชาวไร่อ้อยสบายใจได้ ไม่ได้รับเรื่องมาเฉย ๆ แต่จะเร่งแก้ปัญหานี้ทันที แต่ก็ต้องยอมรับว่าโลกมีการเปลี่ยนแปลง ประเทศคู่ค้าให้ความสำคัญในเรื่องของเกษตรยั่งยืน เกษตรสีเขียว ชาวไร่อ้อยก็ต้องปรับตัวลดการเผา เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาด
ส่วนการขอให้สินค้าน้ำตาลกลับมาเป็นสินค้าที่ลอยตัว ภายใต้ พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลนั้น ก็พร้อมพิจารณาหากทุกอย่างคลี่คลายก็พร้อมที่จะปลดล็อกให้ทันที ส่วนระยะเวลาเมื่อไรนั้น ก็ต้องดูว่าสถานการณ์เป็นปกติ ทุกอย่างลงตัว แต่อย่างไรก็ดี สินค้าน้ำตาลยังเป็นสินค้าควบคุมอยู่
นายกำธร กิตติโชติทรัพย์ นายกสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยเขต 7 กาญจนบุรี กล่าวว่า ชาวไร่ก็ต้องขอบคุณกระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาต้นทุนการผลิต เพราะต้นทุนมีการปรับขึ้นจริง และชาวไร่อ้อยเองก็ไม่ได้ต้องการว่าราคาตลาดโลกขึ้น แล้วราคาน้ำตาลในประเทศต้องขึ้นตาม
การร้องขอ 2 บาทต่อกิโลกรัมเป็นส่วนที่มาจากต้นทุนของชาวไร่ และต้องการหาความคุ้มทุนที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมและพอใจแล้ว
และก็ให้ความมั่นใจกับผู้บริโภคได้ว่าน้ำตาลมีเพียงพอต่อการบริโภคอย่างแน่นอน และได้มีการจัดสรรโควตาให้กับโรงงานขายภายในประเทศ ทุกโรงงานต้องดำเนินการ เพราะมีกฎหมายระบุชัดเจน หากไม่ดำเนินการก็จะระงับการส่งออกทันที