
“พีระพันธุ์” ชู 3 วิธีลดค่าไฟงวด (1 ม.ค.-เม.ย.) ปี 2567 ยืดหนี้ กฟผ.-ปรับโครงสร้างราคา-ปตท.ลดราคาก๊าซธรรมชาติ ดันให้ทันเป็นของขวัญปีใหม่
วันที่ 8 ธันวาคม 2566 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตามที่มีหลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นและความกังวลเกี่ยวกับค่าไฟฟ้างวดใหม่ (มกราคม-เมษายน 2567) หลังจากที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานประกาศที่ราคา 4.68 บาทต่อหน่วยนั้น ตนได้เร่งให้ทุกหน่วยงานหาทุกมาตรการเพื่อลดค่าไฟฟ้าให้ได้
ที่ผ่านมาก็ได้มีการจัดประชุมสั่งการ โดยในเบื้องต้นค่าไฟฟ้าที่ลดได้จะเกิดจาก 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ 1) การขยายหนี้ กฟผ.ออกไปอีก 1 งวด 2) การปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ และ 3) การกำหนดราคาขายก๊าซธรรมชาติของ ปตท.
ซึ่งแม้ว่าการดำเนินการทั้ง 3 มาตรการ จะทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงจากที่ทาง กกพ.เสนอ แต่ทุกฝ่ายก็ยังจะพยายามหาช่องทางให้สามารถลดค่าไฟให้ได้มากขึ้น โดยเฉพาะค่าไฟสำหรับกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด
“หลังจากที่มีการประชุมในหลาย ๆ ครั้ง ทำให้เราได้เห็นตัวเลขและข้อมูลต่าง ๆ ที่จะนำมาประกอบการพิจารณาค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น สิ่งที่ผมเพิ่งได้ดำเนินการซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คือการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ เป็นการปรับโครงสร้างที่จะมีความยั่งยืน ไม่ฉาบฉวย และไม่เป็นการสร้างภาระในอนาคต“
ส่วนมาตรการขยายหนี้ กฟผ.ถือว่าเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาระยะสั้น แต่ผมก็มีแผนที่จะเตรียมแก้ปัญหาให้ กฟผ. เพื่อปลดภาระหนี้ด้วย ส่วนการกำหนดราคาขายก๊าซธรรมชาติของ ปตท. ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการลดราคาค่าไฟได้
นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ทั้ง 3 มาตรการที่จะดำเนินการนี้ แม้จะทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงจากที่ทาง กกพ.เสนอ แต่ผมยังต้องการจะลดลงให้มากกว่านี้ ให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน ทั้งประชาชนและเอกชน
“ผมเข้าใจถึงความเดือดร้อนของทุกฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่จะใช้งบฯกลางเพื่อให้ค่าไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย และขอให้มั่นใจว่าทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ และทำอย่างเร็วที่สุดเพื่อให้ทันเป็นของขวัญปีใหม่ 2567 ให้แก่คนไทยทุกคน“