อีสท์ วอเตอร์ ส่งมอบทรัพย์สินโครงการท่อส่งน้ำแก่กรมธนารักษ์ตามกำหนดสัญญา

อีสท์ วอเตอร์

อีสท์ วอเตอร์ ส่งมอบทรัพย์สินโครงการท่อส่งน้ำแก่กรมธนารักษ์ตามกำหนดสัญญา ไม่หวั่นเร่งเดินหน้าสร้าง Water Grid เชื่อมโยงแหล่งน้ำในภาคตะวันออกทั้งหมด

วันที่ 3 มกราคม 2567 รายงานข่าวจาก บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ ระบุว่า บริษัทส่งมอบทรัพย์สินโครงการท่อส่งน้ำแก่กรมธนารักษ์ตามกำหนดสัญญา ตอกย้ำความมั่นใจแก่ทุกภาคส่วน ว่าพื้นที่ภาคตะวันออกจะมีน้ำใช้เพียงพอต่อความต้องการ พร้อมทั้งเร่งเดินหน้าโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำเชื่อมโยงแหล่งน้ำในภาคตะวันออกทั้งหมด หรือ Water Grid ความยาวรวม 526 กิโลเมตร สู่ความเป็นผู้นำในการบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออก

ตามที่บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ ได้เข้าทำสัญญาการบริหารและการดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกกับกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2536 มีกำหนดระยะเวลา 30 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้อีสท์ วอเตอร์บริหารระบบท่อส่งน้ำและเก็บค่าน้ำดิบภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาฯ นั้น

โดยในวันที่ 30 ธันวาคม 2566 กรมธนารักษ์ และอีสท์ วอเตอร์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทรัพย์สินโครงการที่จะส่งมอบ และในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 กรมธนารักษ์ และอีสท์ วอเตอร์ ได้ลงนามบันทึกส่งมอบ-รับมอบระบบท่อส่งน้ำ ตามสัญญาการบริหารและการดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ได้ดำเนินการส่งมอบทรัพย์สินคืนแก่กรมธนารักษ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม อีสท์ วอเตอร์ คาดว่าการส่งมอบทรัพย์สินดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการจ่ายน้ำดิบลดลงบ้าง แต่การก่อสร้างระบบโครงข่ายท่อส่งน้ำของอีสท์ วอเตอร์ ใกล้แล้วเสร็จ และมีความยาวท่อเพิ่มเติมอีกประมาณ 139 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้ระบบท่อส่งน้ำมีความยาวรวมทั้งสิ้นประมาณ 526 กิโลเมตร เป็น Water Grid เชื่อมโยงแหล่งน้ำในภาคตะวันออกทั้งหมด เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น

ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC รวมถึงยังเดินหน้าธุรกิจน้ำครบวงจร เช่น น้ำประปา น้ำอุตสาหกรรม การบำบัดน้ำเสีย และน้ำรีเคลม ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้ลงนามสัญญาโครงการน้ำครบวงจรไปแล้วมากกว่า 100,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และพร้อมที่จะกลับมาเป็นผู้ให้บริการท่อส่งน้ำสายหลักที่มีศักยภาพสูงสุดในประเทศไทยอีกครั้งภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2567

กนอ. ปลื้มท่อส่งน้ำ EEC ไม่สะดุด

ด้านนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่โครงการท่อส่งน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก หลังจากที่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ หมดสัญญาลงเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา และ บริษัท วงศ์สยามก่อสร้าง จำกัด ได้เข้ามารับช่วงต่อในการดำเนินงานว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีปัญหาการจ่ายน้ำ ภาคอุตสาหกรรมสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้ มีการประชุมหารือร่วมกันระหว่างกรมธนารักษ์ กรมชลประทาน บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ บริษัท วงศ์สยามก่อสร้าง จำกัด บริษัท โกลบอล ยูทิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด (GUSCO) และนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ ถึงการส่งมอบท่อส่งน้ำระหว่างกรมธนารักษ์ และบริษัท อีสท์ วอเตอร์

รวมถึงการส่งมอบท่อส่งน้ำในพื้นที่ทับซ้อนทั้งในส่วนของบริษัท อีสท์ วอเตอร์ และ บริษัท วงศ์สยามก่อสร้าง จำกัด ที่ยังไม่แล้วเสร็จ เพื่อให้การบริหารจัดการส่งน้ำในพื้นที่ไม่เกิดปัญหา มีน้ำใช้อย่างต่อเนื่อง โดยทุกฝ่ายเล็งเห็นความสำคัญของผู้ใช้น้ำ จึงตกลงให้บริษัท อีสท์ วอเตอร์ และบริษัท วงศ์สยามก่อสร้าง ร่วมมือกันบริหารจัดการน้ำ และเร่งประสานเอกสารสัญญาให้แล้วเสร็จ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคอุตสาหกรรม และชุมชนในพื้นที่โดยรอบ

“เรายืนยันมาตลอดว่า กนอ. ยืนเคียงข้างผู้ใช้น้ำ และผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม สิ่งที่ กนอ.ปกป้อง คือ ผลประโยชน์ของผู้ใช้น้ำในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจากการประชุมนั้น ทุกฝ่ายเองก็พร้อมใจกันป้องกันผลกระทบต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เห็นได้จากสถานการณ์การส่งน้ำในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาทุกอย่างยังคงเป็นปกติ ยังคงมีน้ำใช้อย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุด ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกับชุมชนรอบ ๆ นิคมอุตสาหกรรม” นายวีริศกล่าว