การฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง นับจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 25-26 ม.ค. 2565
กระทั่งเปลี่ยนผ่านรัฐบาลแล้ว “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้นำคณะเดินทางเยือนกรุงริยาด เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ เมื่อวันที่ 19-21 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ไม่นับรวมการเดินทางระหว่างภาคเอกชนไทยที่มีมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด บุคคลนามสกุลดัง “ภัทรประสิทธิ์” ถูกฟ้องล้มละลาย
โอกาสไทยในซาอุฯ
เป็นที่ทราบกันดีว่า รัฐบาล “ซาอุดีอาระเบีย” กำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบาย Saudi Vision 2030 ซึ่งนับว่าเป็นผลดีกับภาคเอกชนไทย เพราะซาอุดีอาระเบียนับเป็นตลาดใหญ่ มีประชากรมากที่สุดในกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับเกือบ 40 ล้านคน นำมาสู่การกำหนดแผนผลักดันการค้าและการลงทุนผ่าน ทีมไทยแลนด์
ซึ่ง “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่ากระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะร่วมมือกันเร่งขยายการค้า และดึงดูดการลงทุน ใน “ซาอุดีอาระเบีย” เป็น 1 ใน 10 ตลาดเป้าหมาย
ล่าสุด นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในเดือนพฤษภาคม 2567 นี้จะมีจัดงานสัมมนาการลงทุน และจัดพิธีเปิด สำนักงานบีโอไอประจำกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อดึงดูดการลงทุน ซึ่งสำนักงานซาอุฯจะเป็น 1 ใน 3 สำนักงานที่จะมีการตั้งใหม่ในปีนี้ นอกจากนี้จะมีที่นครเฉิงตู ประเทศจีน และประเทศสิงคโปร์ ซึ่งล้วนเป็นประเทศเป้าหมายสำคัญ
ผู้ผลิตสินค้าไทยบุกจัดแฟร์
ในฟากฝั่งภาคเอกชน “นายสนั่น อังอุบลกุล” ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประกาศการทำงานร่วมกับ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด เตรียมจัดงาน International Mega Fair 2024-Riya ขึ้นที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน 2567 หลังจากที่เคยจัดขึ้นมาเมื่อปี 2566 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก มีนักธุรกิจไทย กว่า 30 ราย นำสินค้ากว่า 1,000 รายการ จาก 200 แบรนด์ เข้าร่วมจัดแสดง
อีกทั้งทางสภาหอการค้าฯยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนพันธกิจและความร่วมมือทางการค้าระหว่างสองประเทศ ผ่านเวที “สภาธุรกิจไทย-ซาอุดีอาระเบีย” ด้วย
ส่วนแผนการจัดงานในปีนี้มุ่งที่จะส่งเสริมการค้า ในสาขาธุรกิจเป้าหมายที่มีศักยภาพร่วมกัน หลายกลุ่ม อาทิ วัสดุก่อสร้างและบริการที่เกี่ยวข้อง อาหารและเครื่องดื่ม ท่องเที่ยวและบริการ พลังงาน เพาะปลูกต้นไม้ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องครัวและอุปกรณ์ ปุ๋ย ชิ้นส่วนยานยนต์ และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
“สภาหอการค้าฯเชื่อว่างานแสดงสินค้า International Mega Fair 2024 จะเป็นเวทีที่จะช่วยยกระดับสินค้าและบริการของไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติมากยิ่งขึ้น และเป็นโอกาสในการเชื่อมโยงทางการค้าระหว่าง ผู้ผลิต ซัพพลายเออร์ ผู้จัดจำหน่าย การเจรจาจับคู่ธุรกิจ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมนโยบาย Soft Power ของรัฐบาลไทย ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับมากยิ่งขึ้น” นายสนั่นกล่าว
เร่งสานต่อ FTA ไทย-ซาอุฯ
ทั้งนี้ ปัจจุบันมูลค่าการค้าไทย-ซาอุดีอาระเบีย เดือน ม.ค.-ก.พ. ปี 2567 เท่ากับ 1,391.78 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 22% โดยไทยส่งออก 444.93 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5% และนำเข้า 946.85 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 30% ส่วนภาพรวมในปี 2566 การค้าไทย-ซาอุฯ มีมูลค่า 8,796.44 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 3.64%
โดยไทยส่งออก 2,667.68 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 29.29% และนำเข้า 6,128.76 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 13.26% โดยไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้า 3,461.08 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการนำเข้ากลุ่มพลังงาน
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวซาอุฯยังนิยมเดินทางมายังประเทศไทยจำนวนมากคาดว่าปีนี้จะมีถึง 4 แสนคน
และหากในอนาคตสามารถขับเคลื่อน FTA ไทย-ซาอุฯ จากปัจจุบันที่มี FTA กับ GCC (กลุ่มประเทศคณะมนตรีความร่วมมือแห่งอ่าวอาหรับ) ก็จะเป็นโอกาสทองในการขยายการค้าและการลงทุนอีกทาง