ภูมิธรรม ยิ้มรัฐปลดล็อก ดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ผ่านฉลุย

ภูมิธรรม ยืนยันโครงการดิจิทัลวอลเลตแจกเงิน 10,000 บาท ช่วยคนและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้จริง ขอให้ประชาชนรออีกไม่นานสามารถใช้ซื้อสินค้าตามร้านค้าในเขตอำเภอได้

วันที่ 11 เมษายน 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงโครงการดิจิทัลวอลเลตแจกเงิน 10,000 บาท ว่า เมื่อรัฐบาลได้ยืนยันการเดินหน้าโครงการ โดยจะกระจายเงินถึงมือประชาชนในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 นี้ ผ่านซูเปอร์แอป โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จะเป็นหน่วยงานสำคัญในการพิจารณาและพัฒนาระบบต่อไป

สำหรับในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมแผนรองรับที่จะเปิดให้ร้านค้าปลีกรายย่อยและร้านค้าธงฟ้า 1.9 ล้านราย เข้าร่วม รวมไปถึงผู้ประกอบการค้าปลีก บุคคลธรรมดา ที่คาดว่าจะมีมากกว่า 8-9 ล้านราย เปิดโอกาสได้เข้าร่วม โดยภาครัฐจะเปิดให้ผู้ประกอบการร้านค้เข้ามาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการนี้ได้ในช่วงไตรมาสที่ 3

“ร้านค้าเมื่อลงทะเบียนแล้วถึงจะทราบที่แน่ชัดถึงจำนวนร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการจริงจะมีมากน้อยแค่ไหน แต่เชื่อว่าจะมีครบทุกเขตอำเภออย่างแน่นอน”

นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ถึงแม้โครงการดิจิทัลวอลเลตจะล่าช้ากว่าที่ประกาศไว้เดิม แต่เชื่อว่าจากที่ทุกฝ่ายได้ศึกษาและวิเคราะห์อย่างลงลึกจะเป็นโครงการที่ช่วยเหลือประชาชนได้ทุกกลุ่มอาชีพและยังสามารถที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาให้กับมาดีขึ้น เกิดการจ้างงานและผลิตสินค้าเพื่อมาตอบสนองความต้องการของประชาชนทุกกลุ่มได้อย่างเต็มที

และนอกจากนี้ กรณีที่หลายฝ่ายนักวิชาการ นักการเมืองจะวิจารณ์โครงการนี้ พร้อมกับมีบางคนกล่าวหาว่าโครงการนี้หวังผลทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะพรรคการเมืองทุกพรรคก็ใช้นโยบายทุกด้านเพื่อจะได้คะแนนเสียง แต่พรรคเพื่อไทยประกาศไว้ก็จะต้องทำให้เห็นผลและเป็นประโยนช์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง

ดังนั้น โครงการนี้พรรคเพื่อไทยศึกษามาดีแล้วว่าเป็นโครงการที่จะช่วยเหลือประชาชนและเสริมสร้างเศรษฐกิจไทยให้กลับมาดีขึ้นได้อย่างแน่นอน และหลังจากนี้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเดินหน้าจัดทำดิจิทัลวอลเลต เพื่อให้มีแนวทางที่ในการทำแผนงานให้มีความชัดเจนและรัดกุมโดยจะไม่ให้เกิดปัญหาการทุจริตเกิดขึ้น และสามารถตรวจสอบได้

สำหรับการลงทะเบียนทั้งประชาชนและร้านค้าปลีกของโครงการนี้ คาดว่าจะสามารถลงทะเบียนได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งจะลงทะเบียนผ่านซูเปอร์แอปโดยหน่วยงานที่ดูแล จะต้องไปจัดทำรายละเอียดของแอปดังกล่าวให้ชัดเจน

แต่ทั้งนี้ ยังไม่ทราบว่าจะต้องใช้งบประมาณในการพัฒนาซูเปอร์แอปมากน้อยแค่ไหน รวมถึงจะเข้าไปดูว่าแอปเป๋าตังค์ที่ใช้อยู่จะสามารถนำมาเข้าร่วมในซูเปอร์แอปได้ไหม ซึ่งไม่ได้ปิดกั้นและหน่วยงานที่รับผิดชอบจะเข้าไปศึกษาตรงนี้ให้ชัดเจน

อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์มั่นใจเมื่อทุกอย่างเดินหน้าได้เป็นที่เรียบร้อย ระบบที่วางไว้จะสามารถเดินหน้าได้ตามที่กำหนดของเวลาได้ ประชาชนสามารถไปซื้อสินค้าตามร้านค้าที่กำหนดในเขตอำเภอได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีกประเภทใด หากตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง ถือว่าสามารถใช้ได้หมด

ยกเว้นร้านค้าที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าและห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ถือว่าไม่เข้าเกณฑ์ตามโครงการดิจิทัลวอลเลต