คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ ผู้เขียน : ณัฐวุฒิ ประชาชาติ
นโยบายเรือธง แจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท กว่าจะมาลงเอยที่การใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน ไม่ออกกฎหมายกู้เงิน ต้องพลิกตะแคงอยู่หลายตลบ
นับแต่วันที่ 11 กันยายน 2566 รัฐบาลเศรษฐา นับ 1 ทำงานอย่างเป็นทางการ นับจากการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ประกาศนโยบาย กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการกระตุ้นการใช้จ่ายด้วยนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เพื่อกระตุกเศรษฐกิจให้ตื่น โดยพิจารณาใช้จ่ายจากเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณ ทั้งในส่วนของเงินกู้ และการให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุน
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ทูลเกล้า 11 รายชื่อคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 ออก 4 เข้าใหม่ 6 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
ท่ามกลางความกังขาว่ารัฐบาลจะหาเงินจากไหน 5 แสนล้านมาดำเนินนโยบาย วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 คณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเลตชุดใหญ่มีมติใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 6 แสนล้านบาท แบ่งเป็นดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเลต 5 แสนล้านบาท
รัฐบาลมีแผนตั้งงบประมาณเพื่อจ่ายคืนเงินกู้ตลอดระยะเวลา 4 ปี
และ 1 แสนล้านบาทจะใช้ในกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-curve)
ทว่าในการประชุมวันดังกล่าว ได้มีข้อทักท้วงจากธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงคณะกรรมการกฤษฎีกา รัฐบาลจึงต้องสอบถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา ช่วยพิจารณา “ข้อกฎหมาย” ว่ารัฐบาลจะออกกฎหมายเพื่อเป็น “ใบเบิกทาง” สำหรับการกู้เงิน 5 แสนล้านนั้น ทำได้-ไม่ได้ อีกด้านคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ผสมโรงตั้งคณะอนุกรรมการให้ความเห็น
16 มกราคม 2567 ป.ป.ช.เตรียมส่งหนังสือทักท้วงโครงการดิจิทัลวอลเลตมาถึงรัฐบาล โดยเฉพาะการ “กู้เงิน 5 แสนล้าน” และโครงการดังกล่าวอาจเข้าข่ายทุจริตเชิงนโยบาย
รัฐบาลจึงรอจนกระทั่งงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ผ่านการเห็นชอบของสภา จึงพลิกกลับมาประกาศยกเลิกการกู้เงิน แต่กลับมาใช้งบฯแผ่นดินแทน
เบื้องหลังฝุ่นตลบโครงการดิจิทัลวอลเลต คนวงในรัฐบาลเล่าให้ฟังว่า รัฐบาลเข้ามาในจังหวะที่ไม่มีงบประมาณให้ใช้
เนื่องจากกฎหมายงบประมาณปี’67 ออกมาล่าช้า หากใช้ช่องทางอื่น กลไกฝั่งราชการกังวลว่าจะมีปัญหาขัดต่อกฎหมายวินัยการเงินการคลัง
ดังนั้น จึงมีข้อสรุปในตอนแรกว่าจะใช้ พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้าน แต่ออกโดยความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร
แต่เมื่อกฎหมายงบประมาณผ่านการเห็นชอบของสภาแล้ว จึงวกกลับมาสูตรเดิม คือใช้เงินจากงบประมาณรายจ่าย แม้จะมีการขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังแน่นอน
และแล้ว 10 เมษายน รัฐบาลเปลือยไส้ในนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท หลังจากพลิกมาหลายตลบ