
“พิมพ์ภัทรา” เตรียมเรียกแพลตฟอร์มออนไลน์ TEMU แก้ปมปัญหาสินค้าทะลักเข้าไทย ขอให้คุมคุณภาพทั้งมาตรฐาน และ อย. จ่อเก็บภาษีตามเอกชนร้อง สมอ. เผย 10 เดือนยึดอายัดสินค้าไม่ได้มาตรฐานกว่า 322 ล้านบาท
วันที่ 14 สิงหาคม 2567 นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากกรณีที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามชาติได้เข้ามาบุกตลาดสินค้าไทย ได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อธุรกิจ SMEs รวมถึงความไม่ปลอดภัยของประชาชนจากการใช้สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน กระทรวงอุตสาหกรรมไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และเร่งดำเนินการตามภารกิจ “Quick Win” เพื่อสกัดกั้นสินค้าไม่ได้มาตรฐานเข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าที่ สมอ.ควบคุมทั้ง 144 รายการ ที่ สมอ.สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการของกระทรวงอุตสาหกรรมยังไม่ครอบคลุมสินค้าที่มีการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีจำนวนกว่า 1,000 รายการ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วนร่วมดำเนินการควบคุมและกำกับติดตาม ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลฯ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เพื่อป้องกันการนำเข้าสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ หรือเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
รวมทั้งพิจารณาให้มีการจัดเก็บภาษีอีคอมเมิร์ซ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขัน โดยการกำหนดนโยบายการจัดเก็บภาษีที่เหมาะสมสำหรับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามชาติ เพื่อให้บริษัทเหล่านี้เสียภาษีอย่างถูกต้อง และไม่เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ
“เราบอกทุกครั้งว่าการซื้อของดีราคาถูก แต่ของก็ต้องมีคุณภาพด้วย อันไหนต้องมีมาตรฐานก็ต้องออก มอก. เราอาจจะต้องเชิญ TEMU มาคุย แม้ว่าจะค่อนข้างยาก แต่เราก็ต้องพยายาม เพราะต้องช่วย SMEs ของไทย อย่างที่เอกชนขอให้มีการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ 5-20% เราก็ต้องเริ่มทำ ปีนี้ 2567 เป็นปีที่ท้าทายและหนักมาก ด้วยสินค้าจีนมันทะลักเข้าไทย แต่เมื่อเขามาเราก็ต้องอยู่ให้ได้ และจำเป็นที่ต้องรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไว้ด้วย เพราะเราเองก็มีส่งออกพวกผักผลไม้ไปจีนเช่นกัน ดังนั้น การจะมีมาตรการอะไรต้องไม่กระทบการค้าระหว่างกัน”
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า สมอ.ได้เร่งดำเนินการกวาดล้างสินค้าด้อยคุณภาพที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดและทางออนไลน์ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 จนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ได้ยึดอายัดสินค้าไม่ได้มาตรฐานเป็นมูลค่า 322,420,097 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นสินค้าไม่ได้มาตรฐานที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านมูลค่า 92,767,374 บาท คิดเป็น 29% จากทั้งหมด
นอกจากนี้ สมอ.ยังได้กำหนดมาตรฐานสินค้าเพิ่มในปีนี้อีกจำนวนกว่า 1,400 มาตรฐาน จากเดิมที่ประกาศใช้แล้วจำนวน 2,722 มาตรฐาน และอยู่ระหว่างดำเนินการประกาศเป็นสินค้าควบคุมอีกจำนวน 52 มาตรฐาน เพิ่มเติมจากเดิมจำนวน 144 มาตรฐาน ครอบคลุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
เช่น ภาชนะและเครื่องใช้สแตนเลส กระทะ ตะหลิว หม้อ ช้อน ส้อม ปิ่นโต ถาดหลุม ถุงพลาสติกสำหรับบรรจุอาหาร ถุงพลาสติกบรรจุอาหารสำหรับอุ่นในไมโครเวฟ เตาหุงต้มในครัวเรือนใช้กับก๊าซปิโตรเลียมเหลว ท่อยางและท่อพลาสติกสำหรับใช้กับก๊าซหุงต้ม ฟิล์มติดกระจกสำหรับรถยนต์ ภาชนะพลาสติกสำหรับบรรจุน้ำบริโภค ที่รองนั่งไฟฟ้าสำหรับโถส้วมนั่งราบ ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก และแผงโซลาร์เซลล์ เป็นต้น
นอกจากการดำเนินการข้างต้น สมอ.ยังมีแนวทางการดำเนินงานเพื่อป้องกันการเข้าถึงแพลตฟอร์มออนไลน์รายใหม่เพิ่มเติม ดังนี้
1.เร่งทำความเข้าใจและชี้แจงข้อกฎหมายกับผู้ประกอบการที่ให้บริการขนส่งสินค้า และให้บริการดำเนินพิธีการศุลกากร (Shipping) เพื่อป้องกันการนำเข้าสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
2.สร้างความตระหนักให้ประชาชนเลือกซื้อสินค้าที่มีเครื่องหมายมาตรฐานบนแพลตฟอร์มออนไลน์
3.บูรณาการการทำงานร่วมกับกรมศุลกากร เพื่อการนำเข้าสินค้าที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานจากแพลตฟอร์มออนไลน์ 4.บูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เกี่ยวกับการควบคุมแพลตฟอร์มออนไลน์ และ 5.บูรณาการการทำงานกับสภาองค์กรของผู้บริโภค เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค