พาณิชย์ ชี้ยาดม “หงส์ไทย” สินค้าซอฟต์พาวเวอร์ พร้อมดันส่งออกต่างประเทศ

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ลงพื้นที่เยี่ยมชมโรงงานหงส์ไทย สินค้าซอฟต์พาวเวอร์สำคัญ พร้อมจะส่งเสริมผู้ประกอบการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ ด้านหงษ์ไทย มองเป้าหมายขยายตลาดส่งออกและดึงส่วนแบ่งตลาดในประเทศให้ได้ 50% ในปี 2070

วันที่ 19 กันยายน 2567 นางพรพิมล เพชรกูล นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) เปิดเผยว่า กรมได้นำคณะผู้บริหารและสื่อมวลชนศึกษาดูงาน ณ โรงงานบริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด หนึ่งในผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ซึ่งเป็นผู้อยู่ภายใต้การนำทัพของผู้ยึดหลักธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจจนประสบความสำเร็จ

ด้วยนโยบายการผลิตสินค้าของหงษ์ไทย ที่ไม่ยอมลดคุณภาพวัตถุดิบเพื่อหวังลดต้นทุนการผลิต รักษาคุณภาพ ทำสินค้าให้เป็นมาตรฐานสากล ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย

โดยกรมพร้อมจะมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพ และส่งเสริมผู้ประกอบการไทยในการประกอบธุรกิจระหว่างประเทศ ส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าและบริการไทย ขยายช่องทางตลาดแก่สินค้าและบริการไทย รวมถึงยกระดับคุณภาพการให้บริการสู่ความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง สมดังเจตนารมณ์ที่จะผลักดันให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับนานาประเทศจนสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำ 1 ใน 5 ของเอเชียภายในปี 2570

นายธีระพงศ์ ระบือธรรม ผู้ก่อตั้งและบริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยาดม ยาหม่อง ยาน้ำมัน สเปรย์สมุนไพร แบรนด์หงส์ไทย กล่าวว่า เคล็ดลับความสำเร็จของแบรนด์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยหงส์ไทยด้วยสโลแกนที่ว่า “มุ่งมั่น เข้าใจ เข้าถึง ซื่อสัตย์ ยอมรับ เพื่อสังคม”

Advertisment

จนทำให้ยาดมหงส์ไทย สามารถครองใจผู้บริโภคชาวไทย จนเป็นสินค้าซอฟต์พาวเวอร์ที่คนดังอย่าง LISA Blackpink หรือฟ่าง-ธีรพงศ์ ศิลาชัย นักกีฬายกน้ำหนักชาย รุ่น 61 กิโลกรัมผู้คว้าเหรียญเงินกีฬาโอลิมปิกปารีสเกมส์ และคนดังอีกหลายคน รวมถึงผู้บริโภคชาวไทยและชาวต่างชาติที่ใช้ผลิตภัณฑ์หงส์ไทยจนเป็นไอเท็มติดตัวที่ขาดไม่ได้

ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อจากคู่ค้าประเทศเพื่อนบ้านทั้งมาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม ลาว ตลอดจนประเทศในแถบทวีปเอเชีย อาทิ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่น ไปจนถึงกลุ่มประเทศในทวีปยุโรปให้ผลิตสินค้าส่งไปจำหน่ายในประเทศของตน ซึ่งทางหงส์ไทยมีการปรับกลยุทธ์แผนเพิ่มกำลังการผลิตให้มีจำนวนสินค้ามากยิ่งขึ้น เพื่อให้ทันตามคำสั่งซื้อทั้งภายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศในระยะเวลาอันใกล้นี้

Advertisment

โดยบริษัทมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรในเครือถึง 54 ผลิตภัณฑ์ และไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไปเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้หลากหลายยิ่งขึ้น อีกทั้งหงส์ไทยเองมีส่วนแบ่งการตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรใช้ภายนอกประมาณ 15-20% คาดการณ์ว่าปี 2568 จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 35% และอีก 3-5 ปีข้างหน้าจะมีส่วนแบ่งการตลาด 50% ขึ้นไป คาดวางไว้ในปี 2570 และจะบุกตลาดกลุ่มประเทศอาเซียน ก้าวสู่ตลาดโลก

จากข้อมูลของ Euromonitor เดือนสิงหาคม 2567 พบว่าในปี 2566 มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรทั่วโลก มีมูลค่า 60.63 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 อยู่ที่ 6% ส่วนมูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรในประเทศในปี 2566 มีมูลค่าสูงถึง 56.94 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 อยู่ที่ 9% โดยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นที่นิยม เนื่องจากมีความปลอดภัย มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่า และมีผลข้างเคียงที่น้อยกว่า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมุนไพรที่มีสรรพคุณแก้ไอ หวัด และภูมิแพ้ เป็นกลุ่มที่มียอดการจำหน่ายดีที่สุดในปี 2566 โดยมูลค่าการขายปลีกเพิ่มขึ้น 11% อยู่ที่ 10.09 พันล้านบาท แนวโน้มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและสมุนไพรในอนาคตยังน่าจับตามอง จากสถานการณ์ COVID-19 ผู้บริโภคทั่วโลกกว่า 70% ให้ความสำคัญกับการบริโภคอาหารเสริม รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ในการดูแลสุขภาพบุคคลทำให้ความต้องการใช้สมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง