“พิชัย” รมว.พาณิชย์ ถกรัฐ-เอกชน 7 หน่วยงาน ดัน SME Next Level เสริมแกร่ง แข่งทุกตลาด ชวนคิดใหม่ทำใหม่ เร่งสร้างโอกาสให้ SMEs ไทยทำเศรษฐกิจโตทั้งระบบ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของภาคเอกชนเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมและยกระดับ SMEs ไทย ร่วมกับภาครัฐ สสว. และ 6 หน่วยงานเอกชน อาทิ สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เครือข่ายธุรกิจ Biz Club Thailand สมาคมธนาคารไทย และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ว่า
เพื่อฟังข้อเสนอแนะช่วยลดต้นทุนค่าครองชีพ ต้นทุนธุรกิจ ให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน ปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรค ขยายตลาดให้ SMEs ไทย ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วน GDP ของ SMEs จาก 35% เป็น 40% ภายในปี 2570 พร้อมมอบนโยบาย “SME Next Level เสริมแกร่ง แข่งทุกตลาด” สร้างโอกาส SMEs ไทย
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์หารือกับภาคเอกชนและตัวแทนภาคเอสเอ็มอีในการทำให้เป็น SME Next Level เสริมแกร่ง แข่งทุกตลาด ให้เอสเอ็มอีของเราสามารถไปสู้กับตลาดโลกได้ในทุกด้าน ให้สัดส่วน GDP เอสเอ็มอีของไทยจาก 35.2% เป็น 40% ภายในปี 2570 อนาคตอยากเห็นเอสเอ็มอีมีสัดส่วนเกิน 50% ในระยะยาว
นอกจากนี้ ไทยได้เจรจา FTA ไทย-อาฟตา สำเร็จ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่และดี จะได้สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก ทางกระทรวงพาณิชย์จะเร่งเจรจา FTA ให้มากขึ้น เพื่อให้ทันกับคู่แข่งอย่างเวียดนาม ให้เรากลับมาแข่งขันได้และการสร้างเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเอสเอ็มอีให้สามารถส่งออกได้มากขึ้น
เอสเอ็มอีจะต้องพัฒนาธุรกิจให้ทันโลก เพราะโลกเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ที่สำคัญต้องคิดใหม่ทำใหม่ คิดแบบเดิมจะสู้เขาไม่ได้ และกระทรวงพาณิชย์ตั้งใจที่จะส่งเสริมและสร้างขีดความสามารถ มีแนวคิดที่จะสร้าง Thailand Brand เพื่อการันตีคุณภาพสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อ
โดยกระทรวงจะช่วยการันตีในระยะแรก และเมื่อเขาพัฒนาต่อไปจะเป็นแบรนด์ของเขาเองในอนาคต และเราจะดันสินค้าและบริการซอฟต์พาวเวอร์หาจุดขาย เช่น เรื่องสินค้า GI เพิ่มความสะดวกในการจำหน่ายสินค้าทั้ง Online และ On Ground ลดต้นทุนของเอสเอ็มอี และอนาคตโลกให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม คาร์บอนเครดิตจะมีความสำคัญมากขึ้น สินค้าของผู้ประกอบการจะต้องตอบโจทย์ตรงนี้
โดยคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย บูรณาการ 28 หน่วยงาน มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 2 คณะ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) และคณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ SMEs ไทย และแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม
และเร็ว ๆ นี้กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับกระทรวงการอุดมการศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. ส่งเสริมให้เอสเอ็มอี มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ให้สินค้าไทยมีคุณภาพสามารถขายได้มากขึ้น ช่วยกระจายรายได้ และยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน
ขณะนี้เอสเอ็มอีไทยประสบปัญหาหนี้สิน ทำให้โดนยึดรถกะบะเป็นจำนวนมาก และปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพจากต่างประเทศ เอกชนอยากให้ภาครัฐช่วยผลักดันเอสเอ็มอีไทยไปบุกตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น ขึ้นแพลตฟอร์มมากขึ้น
ด้านนายแสงชัย ธีรกุลวานิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับรัฐบาลที่ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ให้มีแต้มต่อกับรายย่อย วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกร และสินค้าไทยมีคุณภาพ ขอให้ช่วยส่งเสริมด้านดิจิทัลให้เอสเอ็มอี สร้างแบรนด์เสริมให้เอสเอ็มอียกระดับท้องถิ่นสู่สากล ส่งเสริมการส่งออก ช่วยเศรษฐกิจฐานรากและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น