คนไทยรัดเข็มขัดแน่น ! “ส.ภัตตาคาร” ชี้เศรษฐกิจไทยทรุด ร้านอาหารยอดขายลดฮวบ

คนไทยรัดเข็มขัดแน่น ! ธุรกิจร้านอาหารยอดขายหล่นฮวบ สมาคมภัตตาคารไทยเผยกำลังซื้อฉุดพฤติกรรมเปลี่ยน คนไทยกินข้าวนอกบ้านน้อยลง ขณะที่ร้านอาหารดีลิเวอรี่ออนไลน์มาแรง ฟากผู้ประกอบการโรงแรมอัดโปรโมชั่นสู้

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ร้านอาหารไทยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา พบว่ายอดขายของร้านอาหารทุกขนาดตกลง โดยร้านขนาดเล็ก-กลางที่ไม่มีแบรนด์ลดลงมากถึง 50% ขณะที่ร้านอาหารขนาดใหญ่มีแบรนด์ตกลงราว 20-30% ซึ่งเป็นผลจากหลายปัจจัย ทั้งภาวะเศรษฐกิจไทยที่ไม่ดี ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ทำให้คนไทยระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น

“คนไทยยังนิยมกินข้าวนอกบ้านอยู่ แต่ความถี่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมเฉลี่ย 4 ครั้งต่อคนต่อสัปดาห์ ปัจจุบันลดลงเหลือ 1-2 ครั้งต่อคนต่อสัปดาห์เท่านั้น นอกจากนี้ปริมาณในการสั่งอาหารแต่ละครั้งยังลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง จากเฉลี่ยอยู่ 6 เมนูบนโต๊ะ เหลือเพียง 3 เมนู และเมนูพวกปลากับซีฟู้ด ซึ่งมีราคาสูงมากกว่า 300 บาทขึ้นไป ก็มีปริมาณการสั่งน้อยลง ทำให้รายได้ของร้านอาหารลดน้อยลง”

นางฐนิวรรณกล่าวด้วยว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อพฤติกรรมทานอาหารนอกบ้านของคนไทย คือ ธุรกิจร้านอาหารดีลิเวอรี่ รับออร์เดอร์ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันพบว่าการแข่งขันในตลาดนี้รุนแรงมากขึ้น โดยพบว่าปัจจุบันมูลค่าร้านอาหารตลาดออนไลน์ทั่วประเทศ ทั้งช่องทางโซเชียลมีเดีย และแพลตฟอร์มดังอย่าง Uber Eat และ Line Man มีมูลค่ารวมสูงถึง 4,000 ล้านบาท

“ธุรกิจร้านอาหารในไทยต้องเร่งปรับตัว โดยยังคงขายผ่านหน้าร้านอยู่ แต่เจาะช่องทางขายผ่านออนไลน์ควบคู่กันไปด้วย ขณะเดียวกันต้องมองหานวัตกรรมและเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาโปรดักต์ให้อยู่ได้นานขึ้น จูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติซื้อกลับไปทานได้”

ด้านนางสาวศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า ยอดขายจากลูกค้าคนไทยในร้านอาหารของโรงแรมเฉลี่ยลดลง10-20% โดยช่วงที่ยอดขายยังพอไปได้คือช่วงเทศกาลและวันหยุด ซึ่งทางโรงแรมต้องใช้กลยุทธ์อัดโปรโมชั่นเช่น มา 3 จ่าย 2 และมา 4 จ่าย 3 เพื่อดึงดูดลูกค้าคนไทย เนื่องจากลูกค้าโรงแรมทั้งชาวไทยและต่างชาตินิยมไปทานร้านอาหารข้างนอกและในห้างสรรพสินค้าแทน

“โรงแรมที่มีสัดส่วนรายได้จากร้านอาหารสูง คือโรงแรมที่มีตำแหน่งทางการตลาดชูเรื่องอาหารชัดเจนเช่น นำเชฟดังมาทำอาหาร และโรงแรมที่เน้นลูกค้าตลาดองค์กรมาจัดประชุมสัมมนา ขณะที่เทรนด์การสร้างโรงแรมใหม่ ผู้ประกอบการไม่ได้ทุ่มเงินลงทุนเพื่อสร้างห้องอาหารจำนวนมากเหมือนแต่ก่อน แต่จะสร้างแค่ 1-2 ห้องอาหารเท่านั้น และเปิดเป็นคอฟฟี่ช็อปให้บริการควบคู่แทน เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้า” นางศุภวรรณกล่าว