กกร.เห็นชอบตั้งคณะทำงาน เร่งจัดทำข้อเสนอการแก้ไขปัญหาศก.ต่อรัฐบาลใหม่ คาดแล้วเสร็จพ.ค.นี้

กกร.เห็นชอบตั้งคณะทำงาน เร่งจัดทำข้อเสนอการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่อรัฐบาลใหม่ คาดแล้วเสร็จพฤษภาคมนี้ ขณะที่การขยายตัวเศรษฐกิจคาดการณ์โต 4-4.3% ส่งออกยังโต 5-7% แม้ไทยจะเจอปัจจัยเสี่ยง พร้อมทบทวนตัวเลขอีกครั้งในเดือนหน้า

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. กล่าวว่า กกร.เตรียมจัดตั้งคณะทำงานที่ประกอบด้วยภาคเอกชน 3 สถาบัน เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดูแลภาคเศรษฐกิจทั้งหมดให้กับรัฐบาลใหม่ โดยคาดว่าจะได้ข้อเสนอภายในเดือนพฤษภาคม 2562 นี้ ซึ่งจะเป็นช่วงที่ได้รัฐบาลใหม่ โดยจะนำข้อสรุปเสนอให้รัฐบาลพิจารณาทันทีหลังจากเข้าปฎิบัติหน้าที่ เพื่อให้เศรษฐกิจประเทศเดินหน้าต่อไปได้

ขณะเดียวกัน ยังยืนยันไม่มีความกังวลกรณีการพิจารณายุบพรรคไทยรักษาชาติในวันพรุ่งนี้ เพราะไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร การเลือกตั้งก็ยังคงเดินหน้าได้ พร้อมทั้งยังมองว่าการเลือกตั้งจะที่มีความชัดเจนขึ้น และจะทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นและพร้อมเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งหากหลังเลือกตั้งไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้นจะทำให้เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาที่ไทยเพิ่มขึ้นแน่นอน

นอกจากนี้ กกร.ยังคงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้ จะขยายตัวได้ 4-4.3% แม้ว่าการส่งออกในเดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมาจะติดลบ 5.65% จากปัญหาสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แต่ยังเชื่อว่าส่งออกของไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ 5-7% อยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าค่าเงินบาทของไทยในช่วงที่ผ่านมา มีความผันผวนมากกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค โดยอ่อนค่าและแข็งค่าอย่างรวดเร็ว ซึ่งเกิดจากการเก็งกำไรของนักลงทุน ซึ่งไทยถือเป็นประเทศที่นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินสูงสุดในภูมิภาคเช่นกัน

ดังนั้นธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ จะต้องดูแลให้ค่าเงินบาทอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ผันผวนเร็วเกิน 50 สตางค์ต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือควรจะอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ผู้ส่งออกสามารถวางแผนด้านต้นทุนค่าเงิน ทั้งนี้ กกร.จะมีการทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้ใหม่อย่างเป็นทางการอีกครั้งในเดือนเมษายน 2562

“กกร.มองว่า แม้ค่าว่าเงินบาทจะปรับตัวอ่อนค่าลง และประเด็นสงครามทางการค้าจะเริ่มส่งสัญญาณในเชิงบวกบ้าง แต่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังคงต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทั้งปัจจัยภายในและภายนอก โดยเฉพาะการติดตามผลการประชุมข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนในวันที่ 29 มีนาคม 2562 นี้ รวมไปถึงข้อสรุปเรื่องเบร็กซิต เป็นต้น ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงในครึ่งปีหลัง”