สิ่งทอ-เม็ดพลาสติกส้มหล่น จีนทุ่มซื้อ ‘มัน’ ทำแอลกอฮอล์

ไวรัสโควิด-19 ทุบฐานผลิตในจีน ผู้ผลิตส่งออกไทยส้มหล่น “มันสำปะหลัง-การ์เมนต์-เม็ดพลาสติก” จีนเดินสายหาซื้อมันเส้นส่งโรงงานผลิตแอลกอฮอล์ไม่อั้น เสื้อผ้าแบรนด์ดัง “ดิสนีย์-ยูนิเวอร์แซล” ออร์เดอร์แทนโรงงานจีนที่ผลิตไม่ได้ เม็ดพลาสติกใช้ทำหน้ากากอนามัยดีมานด์พุ่ง IRPC เพิ่มกำลังผลิตเต็มที่

การระบาดของไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ไม่ได้ส่งผลกระทบทางด้านลบต่อเศรษฐกิจทั้งหมด แต่กลับเป็น
โอกาสของผู้ส่งออกไทยบางกลุ่มสามารถส่งสินค้าที่เป็นวัตถุดิบหรือสินค้าทดแทนเข้าไปจำหน่ายในตลาดจีน รวมไปถึงการผลิตสินค้าส่งออกเพื่อทดแทนกำลังผลิตจากจีนที่หายไปด้วย

กว้านซื้อมันเส้นผลิตแอลกอฮอล์

แหล่งข่าวจากวงการค้ามันสำปะหลังเปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ กลุ่มผู้ส่งออกสินค้ามันเส้นไทยได้รับการติดต่อจากผู้นำเข้าจีน ขอให้ส่ง “มันเส้น” ให้กับโรงงานผลิตแอลกอฮอล์จำนวน 5 แห่งบริเวณชานตง-เจ้อเจียง ที่เพิ่งได้รับ “ไลเซนส์” จากรัฐบาลจีน ให้ผลิตแอลกอฮอล์ 75% ที่ใช้ฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่า COVID-19 โดย 2 ใน 5 โรงงานดังกล่าวจะใช้มันเส้นผลิตแอลกอฮอล์ ส่วนอีก 3 โรงที่เหลือจะใช้ข้าวโพดเป็นวัตถุดิบในการผลิต

“จีนบอกว่าต้องการมันเส้นเพื่อใช้ผลิตแอลกอฮอล์ 75% เป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับความต้องการในการใช้ฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่าที่กำลังระบาดอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ แต่ปัญหาก็คือ เราไม่สามารถหามันเส้นให้เพียงพอต่อความต้องการของจีนได้ เนื่องจากปีนี้ประเทศไทยประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก ทางสมาคมมันสำปะหลังฯได้ประมาณการผลผลิตมันน่าจะลดลง 20-30% จากปริมาณ 28.7 ล้านตันหัวมันสด ส่งผลให้ราคาหัวมันสด-มันเส้นในประเทศพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ตอนนี้ใครมีมันเส้นอยู่ในมือต่างก็แย่งกันขายให้จีนหมดเพราะได้ราคาดี” แหล่งข่าวกล่าว

โดยราคามันเส้นที่จีนประกาศรับซื้อได้ขยับขึ้นมาตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจาก 5,500-5,600 บาท/ตัน เป็น 6,300-6,350 บาท/ตัน (ราคามันเส้นผลิตแอลกอฮอล์ 95%) ราคาหัวมันสดปัจจุบันอยู่ที่ 2.40-2.55 บาท/กก.
(เชื้อแป้ง 30%) ส่วนราคามันเส้นอยู่ที่ 5.90-6.20 บาท/กก.

การ์เมนต์รับส้มหล่น

นายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า โรงงานเครื่องนุ่งห่มโดยเฉพาะในมณฑลหูเป่ย์ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเครื่องนุ่งห่มอันดับ 3 ของจีน ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส COVID-19 “จนตอนนี้ไม่สามารถผลิตและส่งมอบสินค้าได้ทัน” ล่าสุดมีกลุ่มผู้นำเข้าเสื้อผ้าจากญี่ปุ่นหลายแบรนด์ อาทิ DISNEY UNIVERSAL ที่เคยสั่งจีนผลิต ได้หันมาติดต่อสมาชิกสมาคมเพื่อสั่งออร์เดอร์ผลิตแทนโรงงานที่จีนแล้ว โดยขณะนี้กำลังหารือกันถึงแนวทางผลิตในช่วงนี้ เนื่องจากสินค้าเสื้อผ้าแบรนด์ดังกล่าวมีลิขสิทธิ์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ 

ทั้งนี้ การผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปของจีนมากกว่าไทยถึง 3 เท่า ในปีที่ผ่านมาไทยส่งออกได้ประมาณ 3,200 ล้านเหรียญสหรัฐ เท่ากับจีนหลักหมื่นล้าน หากมีคำสั่งซื้อมาที่ไทยแค่ 1% ก็จะทำให้การส่งออกไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น บวกกับก่อนหน้านี้ สหรัฐได้ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเครื่องนุ่งห่มจีนจากสงครามการค้า ทำให้ผู้นำเข้าสหรัฐหันมาซื้อจากไทย โดยภาพรวมปีนี้เครื่องนุ่งห่มไทยน่าจะส่งออกขยายตัวได้ 6-10% หรือประมาณ 3,400-3,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.05-1.10 แสนล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตเสื้อผ้าของไทยต้องบริหารจัดการวัตถุดิบนำเข้าให้ดี โดยเฉพาะผ้าบางอย่างที่ต้องนำเข้าจากจีน เช่น ฝ้าย โพลิเอสเตอร์ ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการพิจารณาหาแหล่งผลิตสำรอง เช่น อินเดีย เกาหลี ไต้หวัน หรือในไทยแล้ว เพื่อให้เพียงพอต่อกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนการผลิตจากจีนที่หายไป

ด้านนายประสพ จิรวัฒน์วงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไนซ์กรุ๊ป (ไนซ์ แอพพาเรล) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 กำลังส่งกระทบต่อโรงงานผลิตที่เมืองชิงเต่า ทำให้โรงงานต้องปิดยาวนานกว่าเทศกาลตรุษจีนอีก 1 สัปดาห์ ประกอบกับรัฐบาลจีนได้มีมาตรการเฝ้าระวัง โดยมีระบบตรวจสอบในแต่ละวันอย่างเข้มงวด แต่ในส่วนของภาคการผลิตที่นั่นยังไม่กระทบมากเท่ากับเรื่องวัตถุดิบที่นำเข้า ดังนั้นหากการแพร่ระบาดต่อเนื่องไปอีก 6 เดือน จะกระทบต่อการซัพพลายวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ “ผ้าใยสังเคราะห์” ที่ต้องนำเข้าจากจีน แม้ว่าจะไม่ใช่สัดส่วนหลักในการผลิตสิ่งทอ แต่เป็นองค์ประกอบจำเป็นที่ขาดไม่ได้ 

“การบริหารจัดการสต๊อกวัตถุดิบผ้าใยสังเคราะห์ก็เริ่มได้รับผลกระทบแล้ว เพราะไม่มีแหล่งวัตถุดิบสำรอง โรงงานการ์เมนต์ตอนนี้ต้องแก้ปัญหาเป็นวันต่อวัน หากบริษัทไม่สามารถหาวัตถุดิบมาได้จริง ๆ ก็ต้องทำความเข้าใจกับลูกค้าว่า จำเป็นต้องขอชะลอการส่งมอบสินค้าออกไป” นายประสพกล่าว

ขณะที่นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้มีสินค้าบางชนิดเติบโตได้ดี โดยเฉพาะ “เม็ดพลาสติก” สำหรับใช้ผลิตสปันบอนด์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตหน้ากากอนามัย “ตอนนี้ขายดีมาก” มียอดสั่งซื้อเข้ามาปริมาณมากจนต้องเพิ่มกำลังการผลิตเต็มที่ เพื่อรองรับความต้องการของโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย

กระทบผักผลไม้ 

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานเข้ามาว่า ผู้ส่งออกไทยได้ร่วมหารือกับปลัดกระทรวงพาณิชย์ เพื่อประเมินสถานการณ์ส่งออกจากปัญหา COVID-19 จะกระทบต่อเศรษฐกิจจีนขยายตัวลดลงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดจีน ในไตรมาส 1/2563 ลดลง 2,500 ล้านเหรียญ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ซึ่งจีนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 มียอดการส่งออกในปี 2562 ถึง 9.02 แสนล้านบาท
ในรายการกลุ่มผลไม้สด มูลค่า 64,535 ล้านบาท (ทุเรียนสด-ลำไย-มังคุด-กล้วย-สับปะรด-มะม่วง), กลุ่มผลไม้แช่แข็ง 5,201 ล้านบาท และตลาดกล้วยไม้อันดับ 4 ของไทย

โดยนายราเชนทร์ สุขหวานอารมณ์ ที่ปรึกษาสมาคมชาวสวนมะม่วงไทย และประธานวิสาหกิจผู้ผลิตมะม่วง
เพื่อการส่งออกไทย กล่าวว่า ตอนนี้จีนได้ระงับคำสั่งซื้อมะม่วงจากไทยทั้งหมดจนกว่าสถานการณ์ระบาดจะคลี่คลายลง