สรท.จี้รัฐแก้ปมร้อนขาดแรงงานต่างด้าว หลังส่งออกฟื้น-รง.รับสมัครเพียบ

แรงงานก่อสร้าง
(File Photo by Romeo GACAD / AFP)

สรท. เสนอรัฐเร่งแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว หลังหลายอุตสาหกรรมยังขาดแคลนแรงงาน เร่งประกาศรับสมัครแรงงานจำนวนมาก รองรับการฟื้นตัวการส่งออก คาดส่งออกทั้งปีโต 4%

นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท. ยังคาดการณ์การส่งออกไทยในปี 2564 เติบโตระหว่าง 3% ถึง 4% โดยการส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และจากปัจจัยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของคู่ค้า รวมไปถึงการมีวัคซีนส่งผลให้การส่งออกไทยแนวโน้มดีขึ้น ดังนั้น ปัญหาของผู้ส่งออกที่กังวลในตอนนี้คือปัญหาการขาดแรงงานที่ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวจข้องเข้ามาดูแล แก้ไขในเรื่องนี้

กัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์
กัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์

“หลายโรงงานได้ประกาศรับสมัครงานเนื่องจากขาดแรงงานต่างด้าว จากที่มีการย้ายกลับประเทศซึ่งปัจจุบันหลายโรงงานก็ยังไม่กล้ารับกลับเข้ามา จากปัญหาโควิด-19 และปัญหาการเมืองของประเทศเพื่อนบ้านกระทบให้แรงงานยังไม่กลับเข้ามา ทำให้ขาดแรงงานในหลายอุตสาหกรรม จำนวนแรงงานที่ขึ้นทะเบียนเดิมอยู่ที่ 2 แสนรายปัจจุบันอยู่ที่ 7 แสนราย หากจะดูว่าขาดแรงงานเท่าไรยังประเมินลำบาก แต่กลุ่มที่ต้องการแรงงานมากสุด เช่น สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม เกษตรและอาหาร ส่วนแรงงานฝีมือ เช่น อิเล็กทรอนิกส์”

อย่างไรก็ดี ปัญหาแรงงานจึงเป็นสิ่งที่กังวลเนื่องจากมีผลต่อการผลิต การส่งออกสินค้าไปในอนาคต ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่น เช่น ปัญหาโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ปัญหาตู้สินค้าขาดแคลน ต่อไปอย่างน้อยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 จากปริมาณตู้สินค้าตกค้างที่ท่าเรือปลายทางทั้ง ยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย สวนทางกับความต้องการนำเข้าสินค้าที่มากขึ้น เช่น การบริโภคของสหรัฐประจำเดือนมกราคมในส่วนการค้าปลีกเติบโตขึ้นถึง 5.3% อัตราค่าระวางเรือปรับเพิ่มสูงขึ้น ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง แนวโน้มการขาดแคลนแรงงานต่างด้าวของภาคอุตสาหกรรม ที่จะส่งกระทบต่อมูลค่าการส่งออกได้ในอนาคต

สำหรับปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อการส่งออก เช่น เศรษฐกิจและการค้าโลกมีแนวโน้มฟื้นตัว การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ทั้งจีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศในยุโรป ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกกลับมาสู่ขาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อการส่งออกกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมัน อาทิ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ น้ำมันสำเร็จรูป และ ความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในหลายประเทศ

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า การส่งออกเดือนมกราคม 2564 มีมูลค่า 19,706 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 0.35% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) ในขณะที่การนำเข้าในเดือนมกราคม 2564 มีมูลค่า 19,908 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัว -5.24% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน (YoY) ส่งผลให้ เดือนมกราคม 2564 ประเทศไทยขาดดุลการค้า -202.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สำหรับการส่งออกในกลุ่มสินค้า เช่น กลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวที่ 3.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน (YoY) โดย สินค้าที่ขยายตัวได้ดีอยู่ คือ น้ำมันปาล์ม ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผัก ผลไม้สด แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป สุกรสดแช่เย็นแช่แข็ง อาหารสัตว์เลี้ยง ยางพารา แต่สินค้ากลุ่มที่หดตัวคือ น้ำตาลทราย ข้าว ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป อาหารทะเลแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป

ขณะที่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวที่ 0.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน (YoY) โดย กลุ่มสินค้าที่มีการขยายตัว ได้แก่ ถุงมือยาง รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ยางรถยนต์

ขณะที่สินค้ากลุ่มที่หดตัว อาทิ ทองคำ เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน

อย่างไรก็ดี สรท.ยังมีข้อเสนอแนะที่สำคัญให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลและแก้ไขเพื่อดันการส่งออกของไทยให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย คือ

1) ขอให้ผ่อนปรนมาตรการต่ออายุการแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทย ให้สามารถทำงานต่อเนื่องในปี 2564 เพื่อให้มีแรงงานเพียงพอต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง

2) เร่งแก้ไขปัญหาตู้สินค้าขาดแคลน โดยภาครัฐต้องให้การสนับสนุนให้ผู้ส่งออกไทย โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรให้มีความสามารถในการชำระค่าระวางเรือในอัตราที่สูงขึ้น อันเป็นผลมาจาก Demand ตู้สินค้ามากกว่า Supply ทำให้ราคาค่าระวางในแต่ละเส้นทางเดินเรือปรับตัวสูงต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เพื่อเสริมสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการและสามารถจ่ายค่าระวางได้มากขึ้น ขอให้ภาครัฐเช่าเรือและสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เปล่าที่ตกค้างในต่างประเทศกลับมาให้ผู้ส่งออกไทย และภาครัฐต้องให้การสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมบริการซ่อมตู้คอนเทนเนอร์ภายในประเทศ จะช่วยเพิ่มปริมาณตู้หมุนเวียนเข้ามาในประเทศไทยให้เพิ่มขึ้น


3) ทิศทางค่าเงินบาทแข็งมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจากทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มส่งสัญญาณอ่อนค่า ธปท. ต้องเร่งรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทและใช้มาตรการทางการเงินเพื่อลดความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อไม่เป็นการซ้ำเติมการส่งออก