กรมชลประทานเตรียมรับมือน้ำฤดูฝน อุตุฯ คาดปีนี้ฝนมาเร็ว

กรมชลประทาน สั่งการทุกโครงการชลประทาน เตรียมพร้อมรับมือฤดูฝนปีนี้ หลังกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าฝนปีนี้จะมาเร็วกว่าปีที่ผ่านมา รับมือ 30 วันสิ้นสุดหน้าแล้ง แจงปีนี้จะมีปริมาณฝนตกสูงกว่าค่าเฉลี่ยช่วง 30 ไม่ได้ตกหนักสุดในรอบ 30 ปี

วันที่ 1 เมษายน 2564 นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ปัจจุบันสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 38,348 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 50 ของความจุอ่างฯ รวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ประมาณ 14,419 ล้าน ลบ.ม.

ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล

ขณะนี้ทั้งประเทศมีการใช้น้ำไปแล้ว 13,871 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 73 ของแผนฯ เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 9,417 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 38 ของความจุอ่างฯ รวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ประมาณ 2,748 ล้าน ลบ.ม. มีการใช้น้ำไปแล้ว 4,082 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 82 ของแผนฯ ภาพรวมการบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูแล้งปี 63/64 เป็นไปตามแผน มีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคจนสิ้นฤดูแล้งนี้ และมีน้ำสำรองไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝน

จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาว่า ฝนปีนี้จะมาเร็วกว่าปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีฝนในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ และจะมีปริมาณฝนตกสูงกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปี จึงได้กำชับให้ทุกโครงการชลประทาน เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ รวมถึงบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมและสอดคล้องกับสถานการณ์ พร้อมตรวจสอบสภาพอ่างเก็บน้ำและอาคารชลประทานต่าง ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบให้มีความพร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ

นอกจากนี้ ยังเตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักรเครื่องมือ และเจ้าหน้าที่เข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ทันที และได้เน้นย้ำให้ทุกโครงการชลประทานเร่งกำจัดวัชพืช สิ่งกีดขวางทางน้ำ ให้แล้วเสร็จ

อย่างไรก็ดีการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งนั้น เหลือเวลาอีกเพียง 30 วันจะสิ้นสุด พบว่าปริมาณน้ำในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาปีนี้ นั้นมีปริมาณน้ำใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แต่เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดการว่างงาน ส่งผลให้มีการเพาะปลูก (นอกแผน) เพิ่มขึ้นถึงจำนวน 2.79 ล้านไร่ อย่างไรก็ตามพื้นที่เพาะปลูกดังกล่าวได้ทำการเก็บเกี่ยวไปกว่าครึ่งแล้ว และไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ

นอกจากนี้ กรมชลประทานยังได้วางแผนการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน โดยจะมีการปรับแผนการเพาะปลูกในทุ่งบางระกำประมาณ 265,000 ไร่ โดยจะให้เริ่มเพาะปลูกในวัน 1 เมษายน 2564 เพื่อสามารถเก็บเกี่ยวได้ก่อนเดือนสิงหาคม ซึ่งกรมชลประทานจะใช้ทุ่งบางระกำเป็นแก้มลิงในช่วงเดือนปลายเดือนสิงหาคม ในกรณีที่ลำน้ำยมมีน้ำส่วนเกิน เพื่อป้องกันอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในจังหวัดสุโขทัย

เนื่องจากมีสื่อมวลชนได้มีการพาดหัวข่าวที่มีข้อมูลที่คาดเคลื่อนเกี่ยวกับสถานการณ์ฝนตกหนักสุดในรอบ 30 ปี ซึ่งอาจจะสร้างความเข้าใจผิดและความตื่นตระหนกให้กับประชาชนได้นั้น กรมชลประทานขอยืนยันว่าจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาว่า ในปีนี้จะมีปริมาณฝนตกสูงกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปี และจะมาเร็วกว่าปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเริ่มมีฝนตกตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งไม่ได้ตกหนักสุดในรอบ 30 ปี ตามที่สื่อบางรายนำเสนอในพาดหัวข่าวแต่อย่างใด