แพ็กเกจภาษีรถอีวี “สุพัฒนพงษ์” ประกาศมาแน่ภายในต้นปี 2565

รถยนต์ไฟฟ้า
ภาพประกอบจาก Pixabay

รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ยืนยัน แพ็กเกจยานยนต์ไฟฟ้า มาแน่ภายในต้นปี 2565 เตรียมโรดโชว์ญี่ปุ่น ดึงดูดนักลงทุน

วันที่ 13 มกราคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังหารือทวิภาคีร่วมกับ นายฮากิอูดะ โคอิจิ (H.E. Mr. HAGIUDA Koichi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น พร้อมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่าง BOI และ EEC ประเทศไทย กับ JETRO ประเทศญี่ปุ่น ว่า ญี่ปุ่นให้ความสำคัญเรื่องลดก๊าซเรือนกระจก รวมถึงประเทศตะวันตกก็ให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพ

อย่างไรก็ตามเรื่องเทคโนโลยีเรายังต้องอาศัยญี่ปุ่นเพราะมีความพร้อมหลายด้าน รวมถึงการสนับสนุนช่วยเหลือทางการเงินเพื่อผลักดันให้เดินหน้าไปได้ เนื่องจากในช่วงแรกต้นทุนสูง เป็นแผนที่ต้องทำร่วมกัน หลังจากนั้นจะกำหนดเป็นโครงการ ทั้งนี้ การลงทุนของญี่ปุ่นในไทยทยอยเกิดขึ้นอยู่แล้ว เว้นแต่เรื่องยาก ๆ เช่น เทคโนโลยี คาร์บอน ต้องใช้เวลา

นายสุพัฒนพงษ์ ตอบคำถามเรื่องแพ็กเกจรถยนต์ไฟฟ้า ว่า “เรื่องอีวีรออีกสักนิด ผมบอกไปแล้วว่า ไม่ธันวาคม 2564 ก็ต้นปี 2565”

เมื่อถามว่าญี่ปุ่นเอาแน่ใช่หรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า “เขาประกาศแล้ว เดี๋ยวรอทำแถลงการณ์ เดี๋ยวจะมีแถลงการณ์ชัดเจนออกมา”

เมื่อถามว่า ญี่ปุ่นยังยืนยันที่จะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตอยู่ใช่หรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า “ญี่ปุ่นจะมีการประกาศเจตนารมณ์ยืนยันอย่างเป็นทางการออกมา ทั้งนี้ ตนได้รับเชิญให้เดินทางไปญี่ปุ่นในช่วงที่สถานการณ์เหมาะสม”

“ผมได้เกริ่นไปเบื้องต้นว่า เขตเศรษฐกิจอีอีซีเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก พัฒนาไปหลายด้าน หลังจากนักลงทุนญี่ปุ่นมาเยือนเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา วันนี้เปลี่ยนไปเยอะ จึงอยากหาโอกาสไปพบปะนักธุรกิจญี่ปุ่นเพื่อเล่าถึงความคืบหน้า ขณะเดียวกันเราก็มีแผนที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ ๆ และนวัตกรรมด้วย และเชิญชวนให้มีแผนที่จะดึงดูดให้คนญี่ปุ่น หรือชาวต่างประเทศพำนักระยะยาว มาช่วยกัน คนเก่ง ๆ คนมีฐานะ ให้มาอยู่ประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบสาธารณสุขที่ดี การดูแลผู้สูงอายุที่ดีอยู่แล้ว สามารถมาพำนักระยะยาว และมาช่วยสร้างประเทศไทย มาลงทุน”

นายสุพัฒนพงษ์ยังกล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ได้ถอนเรื่องการอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทยออกไป ว่า “รอให้พร้อมกันหมดก่อน เข้าปุ๊บ ปฏิบัติเลย”

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า วันนี้รัฐมนตรีเมติได้เดินทางมาเพื่อตอกย้ำถึงความร่วมมือนี้ และให้ความมั่นใจกับประเทศไทยว่า ประเทศไทยยังเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่สำคัญกับประเทศญี่ปุ่น เดินหน้าไปด้วยกัน เช่น อุตสาหกรรมที่ญี่ปุ่นมีฐานเดิมอยู่แล้ว เช่น ยานยนต์ การผลิตยานยนต์ในประเทศไทย มีนโยบายใช้ไทยเป็นฐานการผลิต และพิจารณาที่จะขับเคลื่อนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างจริงจังด้วย

 

2022 ปีแห่งรถอีวีผงาด ตลาดแข่งดุ-โชว์เทคโนโลยีล้ำ
สำรวจ 9 ค่ายรถ”ญี่ปุ่น-จีน-ยุโรป” รับอานิสงส์แพ็กเกจอีวี ส่วนลด 5-8 แสน