ราคาน้ำมันดิบลด หลังตลาดกังวลหลายปัจจัยกระทบความต้องการใช้

แท่นขุดเจาะน้ำมัน
ภาพ Pixabay

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังตลาดกังวลหลายปัจจัยกระทบความต้องการใช้

วันที่ 25 เมษายน 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดัน หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกในปี’65 ลง เนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ราคาน้ำมันดิบและสินค้าที่อยู่ในระดับสูง และการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในจีน

ความต้องการใช้น้ำมันในจีนเดือน เม.ย. 65 มีแนวโน้มลดลง 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตามรายงานของ Bloomberg หลังหลายเมืองสำคัญในจีน ยังคงบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับอัตราดอกเบี้ย ขึ้น 0.50% ในการประชุมเดือน พ.ค. 65 ซึ่งป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 0.50% นับตั้งแต่ปี’43

Morgan Stanley ปรับประมาณการราคาน้ำมันดิบเบรนต์ขึ้น 10 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในไตรมาส 3 แตะระดับ 130 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หลังคาดว่าตลาดจะอยู่ภาวะตึงตัวมากขึ้น เนื่องจากปริมาณการส่งออกของรัสเซียที่ลดลง

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังญี่ปุ่นมีแนวโน้มลดการส่งออกน้ำมันเบนซินในเดือน พ.ค. 65 เนื่องจากความต้องการใช้ที่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุด Golden Week ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. 65

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้น 18.49% ณ สัปดาห์สิ้นสุด 20 เม.ย. 65 แตะระดับสูงสุดในรอบ 22 สัปดาห์ที่ 9.02 ล้านบาร์เรล