ประยุทธ์ เผย ญี่ปุ่นใช้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์อีวีของภูมิภาค

ประยุทธ์ เผยผลหารือ สุพัฒนพงศ์ กับภาคธุรกิจญี่ปุ่น ยันใช้ไทยเป็นฐานผลิตรถอีวี – โรงงานแบตเตอรี่ในภูมิภาค

วันที่ 26 เมษายน 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากยรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องการต่างประเทศ นายสุพัฒนพงศ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ได้รายงานผลการเยือนประเทศญี่ปุ่น

โดยได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า อุตสาหกรรมญี่ปุ่น รวมทั้งองค์กรการส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) รวมถึงผู้บริหารองค์กรธุรกิจชั้นนำของญี่ปุ่น

ผลการดำเนินการเป็นที่น่ายินดี ได้กระชับความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับทั้งสองประเทศ และมีข้อตกลงระดับทวิภาคีหลายเรื่อง โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นมีมูลค่าการลงทุนโดยตรงสูงที่สุดในประเทศไทย แสดงให้เห็นว่าไทยมีแรงดึงดูดที่มากเพียงพอต่อบริษัทเอกชนของญี่ปุ่น และเขาแสดงความประสงค์ร่วมมือในอนาคตสูงขึ้นในสถานการณ์ใหม่ๆ หลายด้าน

เช่น ด้านธุรกิจ ด้านอุตสาหกรรมอิเลกทรอนิกส์ สิ่งแวดล้อม พลังงาน หรือ การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนร่วมกัน โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า อีวี เราเดินหน้าพอสมควร ทราบจากผลการจัดงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ผ่านมาก็เห็นแล้ว รัฐบาลเอาทุกอย่างมาสานต่อ มาทำให้ครบถ้วน

ญี่ปุ่นยินดีที่จะร่วมมือในการผลิตรถยนต์อีวีในเมืองไทยมากขึ้น และจะส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์อีวีในภูมภาค รวมถึงการผลิตแบตเตอรี่คุณภาพสูงในประเทศไทย การตั้งโรงงานเซลล์แบตเตอรี่ และร่วมกันสนับสนุนสตาร์ทอัพในประเทศไทย รวมถึงความร่วมมือด้าน ยารักษาโรค การวิจัย การผลิตยา เผื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพและการแพทย์

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนั้น ได้พูดคุยเรื่องความร่วมมือทางการค้าและการเกษตรระหว่างไทยกับภูฏาน เช่น การส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของไทยไปยังภูฏาน รวมทั้ง ด้านศิลปะ วัฒนธรรมหัตถรรม การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

และ ครม.ยังเห็นชอบในการจัดโครงการแลกเปลี่ยนทางศิลปวัฒนธรรมด้านต่างๆ โดยเฉพาะ กับอุตสาหกรรม 5 Fคือ อาหาร ภาพยนตร์ ผ้าและการออกแบบแฟชั่น ศิลปะการต่อสู้ และเทศกาล ประเพณี เรื่องการเผยแพร่และการต่อยอดวัฒนธรรมไทย เป็นการสร้างอิทธิพลและอำนาจในการแข่งขัน ซึ่งเรียกได้ว่า Soft power นั้นเป็นสิ่งที่ตนและรัฐบาลพยายามขับเคลื่อนมาโดยตลอด

มีหลายกิจกรรทที่เป็นความหมายของ Soft power ดังนั้น ถ้าเราเร่งผลักดัน ทำยุทธศาสตร์ด้านนี้ให้ดี ขับเคลื่อนให้ดี โดยโครงการต่างๆ ในทุกกระทรวงช่วยกัน ก็จะเป็นการต่อยอดต้นทุนวัฒนธรรมที่เรามีอยู่มากมายในขณะนี้


นอกจากนี้ กระทรวงดิจิทัลและเศรษฐกิจเพื่อสังคม (ดีอีเอส) ได้นำเสนอผลงานที่น่ายินดี คือ อาคารแสดงของประเทศไทย ในงาน world expo 2020 ที่ดูไบ ติด 1 ใน 5 ของผู้เข้าชมสูงสุด มีผู้เข้าชมมากกว่า 2 ล้านราย ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้คนมาเยี่ยมเยือนประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะยุคหลังโควิด-19 ที่เราจะเปิดประเทศเราตอนนี้ หลายอย่างก็จะดีขึ้นไปตามลำดับ