“ประยุทธ์” เผยในงาน FTI Expo 2022 เชียงใหม่ ฝากถึงเอกชนให้เร่งปรับตัว ด้าน ส.อ.ท. พร้อมจับมือกันขับเคลื่อนประเทศ ยึด EV สร้างดีมานด์ให้เกิด
วันที่ 29 มิถุนายน 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายในงาน FTI Expo 2022 และแสดงปาฐกถาพิเศษ ฉากทัศน์ใหม่อุตสาหกรรมไทยเพื่อความยั่งยืน ว่า ประเทศไทยต้องเร่งปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลให้ทันโลกที่เปลี่ยนแปลงไปเร็ว ที่ผ่านมาไทยมีการพูดถึง Thailand 4.0 มานานแล้ว ดังนั้นจึงต้องเร่งปรับตัว โดยการที่จะยกระดับไทยไปสู่ยุคนี้ได้ต้องพัฒนาเรื่องของนวัตกรรมให้มากขึ้น
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
ซึ่งประเทศไทยมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ผ่าน S-Curve ที่มีการกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมาย และโครงการ EEC ที่วันนี้ทั้ง 2 โครงการ เป็นพระเอกและตัวขับเคลื่อนหลัก
“การผลักดันประเทศไทยให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า จะต้องอาศัยความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคเอกชน จะให้รัฐเดินหน้าอย่างเดียวก็คงไม่สามารถทำได้เต็มที่ ทุกฝ่ายต้องไปด้วยกัน”
ทุกวันนี้เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบหลายด้านทั้งจากปัจจัยภายนอก เช่น สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ได้รับผลกระทบทุกภาคส่วน เช่น ค่าเงินบาทผันผวน และขณะนี้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาก จึงมีทั้งผลดีและผลเสียแต่รัฐบาลได้ดูแลอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้กระทบภาคธุรกิจไทยและการเงินการคลังของประเทศ
ขณะเดียวกัน COP26 ยังได้รับผลกระทบและอาจจะช้ากว่าแผนที่กำหนด เพราะราคาน้ำมันแพง ต้นทุนพลังงานแพง ทำให้หลาย ๆ ประเทศปรับมาใช้พลังงานฟอสซิล รวมทั้งไทยก็ต้องปรับตัวตามไปด้วย ดังนั้นแล้วรัฐบาลได้พยายามอย่างเต็มความสามารถในการนำพาประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้น ท่ามกลางพายุต่าง ๆ ที่เข้ามาอย่างที่ เพราะไทยกำลังเจอ Perfect Strom ครั้งใหญ่
นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) กล่าวว่า อุตสาหกรรมไทยต้องเร่งปรับตัวให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็ว โดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทยได้แก่ S-Curve เพราะจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต ประเทศไทยต้องเร่งพัฒนาตัวเองให้เป็นศูนย์กลาง EV ของภูมิภาค เพราะไทยต้องแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังมาแรง เช่น อินโดนีเซีย ที่มีความได้เปรียบของอุตสาหกรรมนี้ เนื่องจากมีแร่นิกเกิลที่ใช้ทำแบตเตอรรี่รถไฟฟ้า
“เราหารือกับรัฐบาลเรื่องการผลักดัน EV โดยรัฐบาลเห็นสอดคล้องกับเราว่าต้องสร้างดีมานด์ให้เกิดขึ้นในไทยก่อน โดย EV จะเป็นตัวขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยในอนาคต”
สำหรับอุตสาหกรรมยายนต์มีแรงงานมากกว่า 700,000 คน ทั้งระบบ ดังนั้นอุตสาหกรรมนี้จึงมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนา การจ้างงานของคนในประเทศ นอกจากนี้ไทยยังต้องเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะ Hard Disk Drive (HDD) ที่ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญ แต่เทคโนโลยียังล้าสมัยอยู่
ขณะเดียวกันไทยต้องเร่งพัฒนาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์มากขึ้น เพื่อทดแทนการนำเข้าปุ๋ยเคมีที่ขณะนี้มีราคาแพงจากสงคราม โดย ส.อ.ท มีโครงการ SAI เข้ามาช่วยในการพัฒนา โดยร่วมมือทั้งกับหน่วยงานในไทยและต่างประเทศ ในการผลักดันหลาย ๆ โครงการ