สมรภูมิอีวีระอุ OR ส่งนวัตกรรมลงสนาม

E bike

“โออาร์” เผยหลังปรับโมเดลธุรกิจจาก exclusive growth เป็น inclusive growth ดันมาร์เก็ตแชร์เพิ่ม จาก 35-36% ขยับเป็นเฉียด 40% “ซีอีโอ” เดินหน้าแผนลงทุน 9.6 หมื่นล้าน เจรจา 5 พันธมิตรใหม่ นำทัพโชว์เคส “โมบิลิตี้” ผนึกมิตซูบิชิเปิดตัวหัวชาร์จจิ๋ว Ultra EV เจาะโฮมยูส-ลุยธุรกิจเช่า e-Bike หนุนสตาร์ตอัพปั้น “แอป FIX” ศูนย์รวมอู่ซ่อม-“ปิ่นโตปั๊ม” เสริมแกร่งร้านอาหารในเครือข่ายก่อนเชื่อมโยง All in one App พ.ย.นี้

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีที่ผานมา โออาร์ได้ปรับโมเดลธุรกิจ และกำหนดวิสัยทัศน์ใหม่มุ่งเติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต โดยได้วางกรอบงบประมาณลงทุน 200,000 ล้านบาท ใน 10 ปี (2563-2573) และ 96,000 ล้านบาท ในปีนี้ เพื่อจะเป็นองค์กรต้นแบบในการขับเคลื่อนโอกาสและสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินธุรกิจสู่อนาคต

ล่าสุดมีการจัดงาน Inclusive Growth Days Empowered by OR เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีพันธมิตรเดิมและสตาร์ตอัพน้องใหม่เข้าร่วมงานกว่า 100 บูท มีผู้เข้าชมงานกว่า 3,500 คน

“การเปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจ ปรับเปลี่ยนหลักคิดและวิถีการทำธุรกิจ จากอดีตที่มองแค่การแย่งมาร์เก็ตแชร์ มุ่งลดต้นทุน เพื่อให้ได้กำไรสูง ๆ เพื่อองค์กร เปลี่ยนจาก ME เป็น WE พัฒนาแพลตฟอร์มที่สร้างความเติบโตไปด้วยกัน ต้องสร้างอิมแพ็กต์เพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม เราจึงปรับเปลี่ยนจาก exclusive growth เป็น inclusive growth สร้างร่วมมือให้เกิด win-win situation ร่วมกัน”

ปัจจุบันโออาร์สามารถสร้างส่วนแบ่งตลาดได้ 38-39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่สัดส่วน 35-36% และช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีนี้ บริษัทมุ่งพัฒนาธุรกิจส่วน mobility & lifestyle ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรร่วมธุรกิจอีก 5 ราย ทั้งกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสินค้าบริการ มีทั้งคอร์ปอเรต เอสเอ็มอี และสตาร์ตอัพ จากก่อนหน้านี้ที่ดึงพันธมิตรเข้ามาร่วมธุรกิจแล้ว 10 ราย ในช่วง 2 ปี เช่น โอ้กะจู๋ โกวาบิ KOUEN เป็นต้น

ส่วนภาพรวมการขายในส่วนของตลาดน้ำมันปีนี้ คาดว่าจะเติบโต 8-10% ช่วงครึ่งปีแรกที่ขยายตัว 6-8% จากภาวะการใช้น้ำมันกลับมาสูงขึ้น และราคาน้ำมันโลกปรับลดลง หากมีวันหยุดยาว ช่วงไตรมาส 3-4 ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวก็จะทำให้ภาพรวมการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นได้อีก

สำหรับแผนการขยายสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ปีละ 100 สาขา ปัจจุบัน (พ.ค. 65) โออาร์มีสถานีบริการ PTT Station 2,461 สาขา คาเฟ่อเมซอน 4,035 สาขา สมาชิกที่ใช้บริการผ่านดิจิทัล 7.5 ล้านคน ร้านสะดวกซื้อ 2,074 สาขา มีพื้นที่เชิงพาณิชย์ 230,000 ตร.ม. เครือข่ายเอสเอ็มอี 13,000 ราย และเครือข่าย B2B 2,600 ธุรกิจ ส่วนแผนขยายสถานีชาร์จ EV เป็น 450 แห่ง และแผนขยายตลาดต่างประเทศปัจจุบัน 10 ประเทศ เพิ่มเป็น 100 ประเทศในปี 2573

ขณะเดียวกันก็ยังมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในธุรกิจโมบิลิตี้ยานยนต์ไฟฟ้า ศูนย์ซ่อมยานยนต์ FIT Auto และเตรียมพัฒนาแพลตฟอร์ม รูปแบบแอปพลิเคชั่น ที่จะมาเชื่อมต่อการลงทุนจากทุกพาร์ตเนอร์ คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนนี้

ปั้น “ไลฟ์สไตล์” เป็นหัวหอก

นายสมยศ คงประเวศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีก โออาร์กล่าวเสริมว่า สำหรับธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์ ได้ปรับโมเดลของ PTT Station ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่มีบริการครบวงจร ทั้งร้านสะดวกซื้อ คาเฟ่อเมซอน และบริการที่มากกว่าด้านอาหาร (beyond food) เช่น บริการซักอบรีด บริการตู้รับสินค้า ขณะนี้เตรียมพัฒนา PTT Station เป็นคอมมิวนิตี้มอลล์ จะเปิดแห่งแรกที่ถนนวิภาวดี 62 ในช่วงปลายปีนี้ ตามแผนการลดสัดส่วนธุรกิจน้ำมันเป็น 30% และเพิ่มสัดส่วนธุรกิจไลฟ์สไตล์เป็น 70%

ขณะที่แหล่งข่าวจากโออาร์ ให้ข้อมูลว่า ล่าสุดโออาร์ทดลองเปิดให้บริการ “ปิ่นโตปั๊ม” (Pintopump) ผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า และส่งเสริมพันธมิตรที่เป็นร้านอาหารให้มีช่องทางจำหน่ายมากขึ้น ฟังก์ชั่นนี้สามารถใช้ผ่าน LINE Official และแอปพลิเคชั่น QueQ ลูกค้าสามารถสั่งอาหารจากร้านอาหารเครือข่ายของโออาร์ในสถานีบริการที่อยู่ใกล้เคียง และเลือกรับบริการ self pick up หรือ delivery

จุดเด่นคือ ลูกค้าสามารถสั่งได้หลาย ๆ ร้านในคราวเดียวกัน ลดเวลาในการสั่งและรอรับสินค้า และไม่มีค่าบริการ ขณะนี้ทดลองให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ก่อนจะขยายพื้นที่ให้บริการเร็ว ๆ นี้

พาเหรดเปิดตัวบริการใหม่

ทั้งนี้ ภายในงานโออาร์นำธุรกิจในส่วนโมบิลิตี้มาจัดแสดงแบบครบวงจร เป้าหมายเป็นแพลตฟอร์มให้บริการทั้งในส่วนของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยนายพีรเวท ณ ระนอง ผู้จัดการส่วนพัฒนาตลาดเอเนอร์จี้โซลูชั่นโออาร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้โออาร์ได้ร่วมกับมิตซูบิชิ พัฒนาหัวชาร์จแบรนด์ Ultra EV ขนาด 7 กิโลวัตต์ จัดโปรโมชั่นที่ราคา 49,500 บาท

เริ่มทดลองทำตลาดในกลุ่มลูกค้าภาคธุรกิจ (B2B) โดยให้บริการกับรถส่งของบริษัทไปรษณีย์ไทย และเตรียมทำตลาดสำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไปแบบโฮมยูส ซึ่งตอนนี้กำลังดีลกับค่ายรถ เพราะปกติซื้อรถจะมีการแถมเครื่องชาร์จไปให้ด้วย ตัวชาร์จของโออาร์เป็นหัวชาร์จที่ใช้ได้กับรถทุกแบรนด์

นอกจากนี้มีการนำเสนอไปยังคอนโดฯด้วย จุดเด่นของ Ultra EV คือ กะทัดรัด สามารถติดตั้งในบ้านได้ ใช้เวลาการชาร์จสำหรับรถขนาด 50 กิโลวัตต์ ประมาณ 6-7 ชั่วโมง อัตราการกินไฟใกล้เคียงกับเครื่องทำน้ำอุ่น ใช้เรตค่าไฟปกติตามระดับค่าไฟฟ้าทั่วไป

เปิดเกมรุกตลาดอีไบก์

นอกจากนี้ โออาร์ยังได้ดำเนินธุรกิจจักรยานยนต์ไฟฟ้า (e-Bike) 3 ส่วน คือ การร่วมกับพันธมิตรฮอนด้า ให้บริการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รุ่น BENLY ขนาด 4.2 kW ความเร็วสูงสุด 60 กม.ต่อ ชม. และรุ่น PCX Electric ขนาด 4.2 kW ความเร็วสูงสุด 77 กม.ต่อ ชม. พร้อมจุดสำหรับเปลี่ยนถ่ายแบตเตอรี่ (สวอป) นำร่องให้บริการกับบริษัทไปรษณีย์ไทย 20 คัน (สาขาหลักสี่และจตุจักร) และรถ SLEEK ขนาด 3,000 W ความเร็วสูงสุด 80 กม.ต่อ ชม.

งยังพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ I-Motor ขึ้นมาเพื่อใช้ในงานเฉพาะ เช่น การส่งดีลิเวอรี่ถังก๊าซหุงต้ม ขนาด 3,000 W ความเร็วสูงสุด 75 กม.ต่อ ชม. ต้องชาร์จทุก 100 กม. ระยะเวลาชาร์จหัวชาร์จปกติที่ 8 ชั่วโมง

ตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้าเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูง และโออาร์อยู่ระหว่างการทดลองระบบ เน้นกลุ่มลูกค้า B2B ก่อน โดยจะเข้าไปวางระบบ ecosystem ให้ และเริ่มจากการให้เช่าก่อน คิดค่าบริการแบบเหมา รวมทั้งค่าเช่ารถและค่าสวอปแบตเตอรี่ เริ่มต้นที่ 2,800 บาทต่อเดือน

“ที่ใช้รูปแบบเช่าเพราะเทคโนโลยีรถไฟฟ้าเปลี่ยนเร็วมาก คนซื้อก่อนอาจเสียเปรียบ วันนี้สวอปแบต 1 ครั้งวิ่งได้ 50 กม. อนาคตอีกปีจะได้มากขึ้น หรือเรื่องความเร็ววันนี้ 70 กม./ชม. แต่อนาคตอาจจะเพิ่มเป็น 90 หรือ 110 กม. เราจะมีการอัพเดตเทคโนโลยีเป็นระยะ ๆ หลังจากทดลอง B2B แล้วจะขยายไปสู่ลูกค้าบุคคลและบริษัทเอกชนมากขึ้น”

จ่อเปิดแอปรวมศูนย์ซ่อม

พร้อมกันนี้ โออาร์ยังได้พัฒนาสู่บริการซ่อมอีวีคู่ขนานกับการซ่อมรถสันดาป โดยมีการอบรมบุคลากร และปรับศูนย์บริการซ่อม FIT Auto เพื่อให้สามารถรองรับการให้บริการรถอีวีได้

แหล่งข่าวจากบริษัท คาร์ ฟอร์ คาร์ จำกัด หนึ่งในสตาร์ตอัพที่เป็นพันธมิตรโออาร์ เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้รับผิดชอบ ออกแบบและทดสอบการให้บริการแอปพลิเคชั่น FIX ให้โออาร์ โดยแพลตฟอร์มนี้เป็นหนึ่งในบริการใหม่ที่รวบรวมรายชื่อศูนย์ซ่อมรถ คาร์แคร์ อู่ต่าง ๆ ทั้งสันดาปและรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อเชื่อมโยงให้กับสมาชิกที่ต้องการใช้บริการให้สามารถสืบค้นหาอู่ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง จองนัดใช้บริการล่วงหน้า พร้อมรับส่วนลดพิเศษ และชำระเงินผ่านระบบของแอปได้ และมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม.

ขณะนี้ได้รวบรวมข้อมูลแล้วกว่า 250 อู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เป็นเฟสแรก และมีแผนจะขยายไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดให้ครอบคลุมทั่วประเทศในเฟสต่อไป

จุดเด่นแอปนี้จะมาช่วยผู้ใช้บริการแก้เพนพอยต์กรณีไม่สามารถจัดหาอู่ได้ หรือไม่มั่นใจว่าอู่ใดสามารถซ่อมได้ โดยจะมีการให้จองนัดหมาย ซ่อมแล้วสามารถรีวิวและให้คะแนนการซ่อมได้ และมีการจัดโปรโมชั่นพิเศษด้วย