ทำความรู้จักหลักสูตรใหม่ของจุฬาฯ คณะวิศวกรรมศาสตร์ “สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล” รับสูงสุดปีละ 300 คน เรียนยืดหยุ่น ฝึกงานทุกปี
วันที่ 10 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) อนุมัติหลักสูตรแซนด์บอกซ์เพิ่มเติม คือหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Computer Engineering & Digital Technology (CEDT)
- แคดเมียมมีดีอะไร ทำไมแค่กากยังมีคนอยากได้?
- เช็กเงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนเมษายน 2567 เงินเข้าวันไหน
- ปรับเงินเพิ่มค่าครองชีพ ข้าราชการ 4 กลุ่ม เริ่ม 1 พ.ค.นี้
“ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมความน่าสนใจของสาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล ว่ามีความแตกต่างจากหลักสูตรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์แบบปกติอย่างไร รวมถึงเมื่อสำเร็จการศึกษาจะสามารถประกอบอาชีพอะไรได้บ้าง ดังนี้
หลักสูตรแซนด์บอกซ์ ปลดล็อกข้อจำกัดเดิมการศึกษาไทย
สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล อยู่ในหลักสูตรแซนด์บอกซ์ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ลดระเบียบกฏเกณฑ์ต่าง ๆ ลดข้อจำกัด และสนับสนุนให้มีการปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัยตรงตามความต้องการของตลาดงานมากขึ้น
และภาควิชาที่เสนอหลักสูตรเข้ามาอยู่ในแซนด์บอกซ์ จะมีอิสระในการออกแบบ และวิธีการเรียนการสอนที่ยืดหยุ่น และทันสมัยมากขึ้น เช่น การกำหนดรายวิชา ลดวิชาเดิม และเพิ่มวิชาใหม่ที่ตรงกับความต้องการของตลาด, ลดรายวิชาในหมวดศึกษาทั่วไป ไปเพิ่มหน่วยกิตจากการฝึกงาน รวมถึงเกณฑ์คุณสมบัติของผู้สอนที่อิสระขึ้น โดยผู้เข้าสอนไม่จำเป็นต้องอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเสมอไป แต่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มาจากภาคเอกชนมาร่วมสอนและถ่ายทอดประสบการณ์จากการทำงานจริง
รับนิสิตได้สูงสุดปีละ 300 คน
ทั้งนี้ ด้วยข้อจำกัดที่ลดลง ทำให้การเรียนการสอนของสาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล สามารถใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยในการสอน และรับนิสิตได้ถึง 300 คน เมื่อเทียบกับหลักสูตรเดิม “สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์” ที่รับได้ปีละ 150 คนเท่านั้น
ฝึกงานทุกปี ตั้งแต่ปี 1 ถึงปี 4
จุดเด่นของหลักสูตรนี้คือการเปิดโอกาสให้นิสิตได้ฝึกประสบการณ์วิชาชีพผ่านการฝึกงานสม่ำเสมอทุกชั้นปี ตั้งแต่ปี 1 จนถึง ปี 4 คือเรียนทฤษฎีของแต่ละชั้นปีจบก็จะได้ฝึกงาน ต่างจากเดิมที่ต้องเรียนครบ 3 ปีจึงจะมีทักษะครบตามเกณฑ์ก่อนจะลงสนามฝึกงานในรูปแบบสหกิจศึกษา
โดยจะได้รับประกาศนียบัตร (Certificate) รับรองรายภาคการศึกษา หรือเมื่อเรียนจบแต่ละชั้นปีนักศึกษาสามารถใช้ยื่นเพื่อออกไปประกอบอาชีพได้ด้วยโดยสะสมหน่วยกิตไว้ในคลังหน่วยกิต เมื่อพร้อมกลับมาเรียนก็สามารถมาเรียนต่อได้ทันที
การเรียนเน้นทักษะเทคโนโลยี ดิจิทัลมากขึ้น
ส่วนเนื้อหาการเรียนการสอน จะมีความต่างจากหลักสูตรปกติ มีการปรับปรุงวิชาพื้นฐานให้เน้นเฉพาะเนื้อหาที่จำเป็น และเพิ่มวิชาทางเทคโนโลยีดิจิทัลที่เป็นที่ต้องการอย่างมากในอุตสาหกรรม เช่น Data Science,AI Cloud, IoT, Agile Software Development และวิชาเลือกที่สอนโดยบริษัทเอกชนชั้นนำ ซึ่งหลักสูตรใหม่นี้ทำความร่วมมือกับ 30 บริษัทเข้ามาเป็นพี่เลี้ยง
ค่าเรียน 25,000 บาท/เทอม
หลักสูตรนี้ มีจำนวนหน่วยกิตรวมทั้งหมด 141 หน่วยกิต โดยเรียนเป็นภาคภาษาไทย และค่าใช้จ่ายเหมือนหลักสูตรภาษาไทยภาคปกติ ประมาณ 25,500 / ภาคการศึกษา วิธีการเรียนการสอนจะผสมผสานระหว่างออนไลน์และออนไซต์
ทักษะหลังจบการศึกษา
ผู้สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรนี้ จะมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบ วิเคราะห์ และสร้างโปรแกรมประยุกต์ของระบบซอฟต์แวร์ การวิเคราะห์ข้อมูล ระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายกลุ่มเมฆ รวมถึงระบบปัญญาประดิษฐ์ และสามารถประยุกต์หลักการทางวิศวกรรมเพื่อการแก้ปัญหาในสาขาอาชีพอื่นด้วยคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี