
บอร์ด กช. ชง “ตรีนุช” ลงนาม เพิ่มเงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครู สำหรับนักเรียนในโรงเรียนเอกชน ประเภทอาชีวศึกษา 450 บาท ต่อคนต่อปี
วันที่ 24 มีนาคม 2565 นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ครั้งที่ 1/2565 เห็นชอบให้เสนอความเห็นต่อ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในการออกร่างระเบียบกระทรวงฯ ว่าด้วยการกำหนดมาตรการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชน เป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….
เพื่อปรับเพิ่มเงินอุดหนุนในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครู สำหรับนักเรียนโรงเรียนเอกชน ประเภทอาชีวศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 เป็นจำนวน 450 บาทต่อคนต่อปี จาก 8,582.50 บาทต่อคนต่อปี เป็นจำนวน 9,032.50 บาทต่อคนต่อปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้เตรียมงบประมาณในส่วนนี้รองรับแล้ว และเมื่อ นางสาวตรีนุช ลงนามเรียบร้อย งบประมาณในส่วนนี้ก็จะไปช่วยเหลืออุดหนุนในโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชน

ทั้งนี้ ยังได้เห็นชอบในการกำหนดนโยบายการคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ จากอัตราร้อยละ 4 ต่อปี เป็นอัตราร้อยละ 2 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565-1 พฤษภาคม 2568 เพื่อให้ความช่วยเหลือโรงเรียนเอกชน ที่ประสบปัญหาสภาพคล่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งยังเห็นชอบให้ปรับเกณฑ์การกู้ยืมเงินเพื่อให้โรงเรียนขนาดเล็ก สามารถที่จะกู้ยืมเงินกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบได้ โดยคำนึงถึงจำนวนนักเรียน เพื่อให้ได้ประโยชน์เพิ่มมากขึ้น และช่วยกระตุ้นให้โรงเรียนขนาดเล็กสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้
“ในเรื่องของการดูแลสภาพคล่อง ทำให้โรงเรียนเอกชนในระบบสามัญสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นข้อห่วงใยของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เช่นกัน โดยมอบหมายให้ สช.จัดทำแนวทางและรวบรวมข้อมูล เพื่อหามาตรการรองรับการช่วยเหลือการเสริมสภาพคล่องของโรงเรียนขนาดเล็กที่เข้าเกณฑ์ของกองทุนฯ ในการนำเสนอของบประมาณจากรัฐบาลมาสมทบเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 500 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้แต่งตั้งอนุกรรมการชุดต่าง ๆ โดยเร่งด่วน เพื่อปฏิบัติงานแทนคณะอนุกรรมการชุดเดิมที่หมดวาระ และที่ประชุมยังได้รับทราบรายงานการควบคุมกิจการของโรงเรียนเอกชนในระบบ ในจังหวัดชัยภูมิ” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว