ม.กรุงเทพธนบุรี ผนึกกรมคุ้มครองสิทธิฯ เปิดศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน

ม.กรุงเทพธนบุรี ผนึกกรมคุ้มครองสิทธิฯ เปิดศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน แก้ปัญหาคดีเล็กน้อยไม่ต้องถึงชั้นศาล โฆษ กอว.ชี้ช่วยลดบาดแผลในใจคู่กรณี สร้างสังคมเป็นสุข

วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

โดยมีนายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และ รศ.ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พร้อมเปิด “ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน” ที่อาคารซีซี อาเซียน เพื่อส่งเสริม พัฒนาความร่วมมือทางวิชาการที่เกี่ยวข้องร่วมกัน อาทิ การจัดอบรมเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ไกล่เกลี่ยภาคประชาชน การอบรมให้ความรู้กับประชาชนที่สนใจในเรื่องการไกล่เกลี่ย เป็นต้น

รศ.(พิเศษ) ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการและโฆษกกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า โครงการนี้จริง ๆ แล้ว เริ่มจากทางท่านเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้เข้ามาปรึกษาหารือกับท่านรัฐมนตรี รศ.(พิเศษ) เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ที่กระทรวง อว.จึงได้เกิดโครงการแบบนี้ขึ้น

โดยส่วนหนึ่งในนโยบายของท่านรัฐมนตรีเองมีความมุ่งมั่น อยากให้มหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนทำงานกันเป็นทีม เป็นภาคีเครือข่ายในทุกภาคส่วน โดยกระทรวง อว.พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีโครงการแบบนี้ในทุกมหาวิทยาลัย เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม คุ้มครอง และเสริมสร้างหลักประกันด้านสิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน และส่งเสริมการพัฒนาระบบและกลไกการระงับข้อพิพาทในสังคม รวมทั้งส่งเสริมการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนตามกฎหมายว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในภาคประชาชน ทั้งนี้การทำให้คู่กรณีที่เกิดข้อพิพาทสามารถไกล่เกลี่ยกันได้จะไม่ทำให้เกิดบาดแผลในใจระหว่างกัน สังคมก็อยู่อย่างมีความสุข

ด้านนายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า กรมได้งบประมาณจากรัฐบาลเพื่อจัดอบรมหลักสูตรผู้ไกล่เกลี่ยภาคประชาชนเพียงปีละ 100 คน จึงต้องร่วมมือกับพันธมิตรภาคเอกชนเดินหน้าโครงการนี้ เพราะว่าขณะนี้พื้นที่ กทม.ดำเนินการตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคประชาชนไปแล้ว 250 ศูนย์ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ด้านกฎหมาย เคารพสิทธิและไม่ถูกละเมิดสิทธิส่วนบุคคล รัฐต้องการให้มีประชาชนเข้าอบรมและสอบเป็นผู้ไกล่เกลี่ยภาคประชาชนเพื่อให้คดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ต้องไปถึงขั้นศาล โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าปล่อยให้เมื่อมีกรณีพิพาทกันตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการในชั้นศาล คู่กรณีจะต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 1.2 แสนบาท สิ่งที่ตามมาคือคนแพ้ถูกบังคับคดี ขณะที่คนชนะกว่าจะได้เงินก็รอนานมาก

“วันนี้คดีที่ถูกฟ้องคดีในลักษณะนี้มากคือ การกู้ยืมเงินกองทุน กยศ.และไม่ชำระ มีผู้ที่อยู่ในกลุ่มนี้มากถึง 3 แสนคน ดังนั้นการที่เราขับเคลื่อนงานยุติธรรมผ่านบ้าน วัด โรงเรียน มหาวิทยาลัยจึงมีเป้าหมายให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย”

ขณะที่ ผศ.ดร.วิทยา เบ็ญจาธิกุล รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี กล่าวว่า ทุกวันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึงกระบวนการยุติธรรม อย่างคดีอาญาโทษไม่เกิน 3 ปี ถ้าสามารถเจรจากันได้ สิทธิทางอาญาจะถูกระงับไป

ส่วนคดีแพ่งทุนทรัพย์ไม่เกิน 5 แสนก็สามารถเจรจากันได้ผ่านศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนด้วยการทำสัญญาประนีประนอมยอมความเรื่องก็จบ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งประชาชนมาร้องเรียนได้ที่ศูนย์ดังกล่าวเราจะแต่งตั้งผู้ไกล่เกลี่ยเข้าช่วยเหลือ ทั้งนี้การจะเป็นผู้ไกล่เกลี่ยภาคประชาชนต้องผ่านการอบรมหลักสูตร 36 ชั่วโมง และต้องสอบกฎหมายที่เกี่ยวข้องทางกรมคุ้มครองสิทธิฯ จึงจะขึ้นบัญชีเป็นผู้ไกล่เกลี่ย