บ้านปูขายหุ้นกู้ 3 รุ่นรวดในเดือน ก.ย.นี้ รอเคาะอัตราดอกเบี้ย

โรงไฟฟ้าบ้านปู เทกซัส

บ้านปูเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 3 รุ่น อันดับเครดิต A+/Stable ผ่าน สถาบันการเงิน รอเคาะดอกเบี้ย คาดว่าเปิดให้ผู้ลงทุนทั่วไปจองซื้อในเดือน ก.ย.นี้

วันที่ 10 สิงหาคม 2565 นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บ้านปูได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้ว

โดยหุ้นกู้ที่จะเสนอขายให้กับผู้ลงทุนทั่วไปมีจำนวน 3 รุ่น คือ รุ่นอายุ 4 ปี รุ่นอายุ 7 ปี และรุ่นอายุ 10 ปี อัตราผลตอบแทนจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง โดยคาดว่าจะเสนอขายในช่วงกลางเดือน ก.ย.นี้ ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่าย 4 แห่ง

ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ผ่านสาขา ระบบออนไลน์ และแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ

ทั้งนี้ หุ้นกู้ชุดดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2565 ที่ระดับ A+ ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมพลังงานของบ้านปูที่พร้อมขยายการเติบโตเพื่อส่งมอบอนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน (Smarter Energy for Sustainability) ภายใต้การเปลี่ยนผ่านธุรกิจของบริษัท ตามกลยุทธ์ Greener & Smarter รวมถึงความสามารถในการรักษาวินัยทางการเงินและการบริหารกระแสเงินสดไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง

ขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้ง ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2565 บ้านปูมีผลการดำเนินงานดีกว่าที่ทริสเรทติ้งประมาณการไว้ โดยมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ที่ 433 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 63 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ดีขึ้นมาอยู่ที่ 3.6 เท่า จาก 4.5 เท่า ณ สิ้นปี 2564

นอกจากนี้ ในช่วงต้นเดือน ก.ย. 2565 บ้านปูได้บรรลุผลสำเร็จในการซื้อสินทรัพย์แหล่งก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา มูลค่า 750 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งทริสเรทติ้งคาดว่า สินทรัพย์แหล่งก๊าซธรรมชาติใหม่นี้จะสามารถสร้าง EBITDA ให้แก่บริษัทได้ทันทีประมาณ 150-180 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี

รวมถึงบริษัทยังได้ลงทุนในหุ้นทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพหรือเฮลท์แคร์ (Healthcare) ในสหรัฐมูลค่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐอีกด้วย

บริษัทมั่นใจว่าการเสนอขายหุ้นกู้ทั้ง 3 รุ่นนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในกิจการที่มีความมั่นคง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมในระดับภูมิภาค มีศักยภาพในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยกลยุทธ์ Greener & Smarter เชื่อว่า หุ้นกู้บ้านปูจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้” นางสมฤดีกล่าว