รมว.คลัง ยันปิดหีบรายได้รัฐทะลุเป้า-เงินคงคลังสุดปึ้ก

กระทรวงการคลัง

ขุนคลังฟันธงปิดหีบรายได้ทะลุเป้า 2.5 หมื่นล้าน เงินคลังคลังปึ้กกว่า 5 แสนล้านบาท แม้ลดภาษีน้ำมันอุ้มดีเซลทำสรรพสามิตเก็บพลาดเป้า เหตุสรรพากรกรมเดียวเก็บเกินประมาณการ 2.5 แสนล้านบาท อานิสงส์เปิดประเทศ-บริโภคฟื้น ด้านศุลกากรชี้บาทอ่อนช่วยหนุนส่งออกโต-รายได้ภาษีเข้าเป้า 1.08 แสนล้าน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในปีงบประมาณ 2565 นี้ กระทรวงการคลังคาดว่าจะเก็บรายได้เข้ารัฐได้มากกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณที่กำหนดไว้ 2.4 ล้านล้านบาท จำนวนราว 2.5 หมื่นล้านบาท หรือจัดเก็บได้ที่ 2.425 ล้านล้านบาท ดังนั้น จึงไม่น่าเป็นห่วง ขณะที่ฐานะการคลัง ณ สิ้นปีงบประมาณ (สิ้น ก.ย. 2565) เงินคงคลังจะอยู่ที่กว่า 5 แสนล้านบาท ถือว่ามีความมั่นคง และมีเสถียรภาพ

“การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ปีงบประมาณ 2565 ช่วง 9 เดือนแรก เราสามารถจัดเก็บรายได้ได้เกินเป้าหมาย เกินจากประมาณการอยู่ 1.22 แสนล้านบาท หรือสูงกว่าประมาณการ 6.4% และเกินจากช่วงเดียวกันปี 2564 อยู่ 1.11 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.4% ดังนั้น หากมองไปที่อีก 3 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ ก็เชื่อได้ว่า คาดการณ์ว่ารายได้จัดเก็บของเรา จะเกินเป้าหมายประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท ฉะนั้นไม่น่าเป็นห่วง” นายอาคมกล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า คาดว่าในปีงบประมาณ 2565 นี้ จะสามารถปิดหีบรายได้ได้ตามเป้าหมาย หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ โดยเปิดรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามากว่า 10 ล้านคน จะเป็นส่วนสนับสนุนให้มีการบริโภคมากขึ้น โดยเป็นปัจจัยสนับสนุนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) รวมทั้งภาษีสรรพสามิต ในส่วนของสุรา เบียร์ ยาสูบ เป็นต้น

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณนี้ ทางกรมสรรพสามิตได้ลดภาษีดีเซลลง ตั้งแต่เดือน ก.พ. และขยายระยะเวลามาตรการมาถึงวันที่ 20 ก.ย.นี้ โดยคาดว่าสูญเสียรายได้กว่า 4.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งภาษีน้ำมันถือเป็นสัดส่วนรายได้ที่ใหญ่ที่สุดของกรมสรรพสามิต ที่ปกติจะจัดเก็บได้เฉลี่ยประมาณ 2 แสนล้านบาทต่อปี ดังนั้น กรมสรรพสามิตก็คงเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่เอกสารงบประมาณระบุไว้ 5.92 แสนล้านบาท

“รายได้สรรพสามิตปีนี้ คาดว่าจะเก็บรายได้เพียง 4.9 แสนล้านบาท แต่ในภาพรวม ไม่น่ากังวล เพราะการจัดเก็บรายได้ในส่วนของกรมสรรพากร จะทำได้เกินกว่าเป้าหมาย รวมถึงรายได้ของหน่วยงานอื่น ๆ ก็จะมาชดเชยได้ โดยในช่วง 9 เดือนแรก พบว่า กรมธนารักษ์นำส่งรายได้เข้ารัฐแล้วกว่า 6,411 ล้านบาท ขณะที่รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้แล้ว 116,310 ล้านบาท นอกจากนี้ ในช่วงที่เหลืออีก 2 เดือน กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมา รายได้สรรพสามิตก็อาจจะเพิ่มขึ้น จากภาษีเหล้า เบียร์ บุหรี่ ซึ่งอาจทำให้สรรพสามิตเก็บภาษีได้ถึง 5 แสนล้านบาทก็ได้” แหล่งข่าวกล่าว

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ผลการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในช่วง 9 เดือนแรก สามารถเก็บรายได้มากกว่าเป้าหมายถึง 2 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าในปีงบประมาณ 2565 นี้ จะสามารถจัดเก็บรายได้ได้สูงกว่าเป้าหมายถึง 2.5 แสนล้านบาท จากเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณอยู่ที่ 1.876 ล้านล้านบาท เนื่องจากขณะนี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากมีการคลายล็อกดาวน์โควิด-19 ทำให้มีการบริโภคเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้เก็บภาษี VAT ได้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งจะมีรายได้จากการเก็บภาษีนิติบุคคลด้วย

“กรมคาดว่าจะสามารถเก็บรายได้ได้มากกว่าเป้าหมายถึง 2.5 แสนล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการเก็บภาษี VAT และภาษีนิติบุคคล ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมา รวมทั้งยังมีรายได้จากภาษีอีเซอร์วิสด้วย ซึ่งคาดว่าปีนี้จะเก็บได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท” นายลวรณกล่าว

ด้านนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2565 คาดว่ากรมศุลฯจะสามารถจัดเก็บรายได้ได้ตามเอกสารงบประมาณที่กำหนดไว้ที่ 1.08 แสนล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือน สามารถจัดเก็บรายได้แล้ว 80,974 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าปัจจัยที่จะสนับสนุนในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณนี้ คือ เงินบาทที่อ่อนค่าลง ที่จะช่วยให้การส่งออกขยายตัวได้ดีมากขึ้น และมีผลต่อการจัดเก็บรายได้ของกรมด้วย