มุมมองกูรูตลาดทุน ฟันด์โฟลว์ต่างชาติทะลัก เก็งกำไรหุ้นไทย ?

ฟันด์โฟลว์ต่างชาติ

ตลาดหุ้นไทยปีนี้ แม้จะดูค่อนข้างผันผวนไปตามปัจจัยตลาดโลก แต่เมื่อไปดูกระแสเงินลงทุนจากต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) พบว่าในเดือน ส.ค.นี้ ตั้งแต่วันที่ 1-29 ส.ค. (MTD) นักลงทุนต่างชาติทะลักเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยไปกว่า 52,000 ล้านบาท

และตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD : ณ 26 ส.ค.) ต่างชาติซื้อสุทธิแล้วกว่า 169,000 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนสถาบัน YTD ขายสุทธิไปกว่า 115,300 ล้านบาท และ MTD ขายสุทธิ 16,500 ล้านบาท เช่นเดียวกับนักลงทุนรายย่อยที่ MTD ขายสุทธิไปกว่า 32,000 ล้านบาท และ YTD ขายสุทธิไปแล้วกว่า 51,600 ล้านบาท

โดย “สุกิจ อุดมศิริกุล” กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ หรือ SCBS กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา วอลุ่มการซื้อขายของรายย่อยและสถาบันในประเทศลดลง ขณะที่จะเห็นเป็นภาพของฟันด์โฟลว์ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี วอลุ่มการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มขึ้น เป็นลักษณะการเก็งกำไรอยู่ค่อนข้างมาก เพราะต้นทุนการเข้า-ออกไม่สูง ทำให้มีการซื้อ ๆ ขาย ๆ หลายรอบ

ขณะที่ “ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร” รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ส่วนใหญ่โฟลว์ที่ไหลเข้ามาอยู่ในหุ้นใหญ่เป็นหลัก ซึ่งยังไม่เห็นสัญญาณการเก็งกำไรแต่อย่างใด

และเงินที่ไหลเข้านั้นจะเป็น Selective Economy ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น เพราะมีปัจจัยที่ดีจากการเปิดประเทศ

“ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์” นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ฟันด์โฟลว์ที่ไหลเข้าสู่ตลาดทุนไทยช่วงนี้ บางส่วนก็อาจมีโฟลว์เข้ามาเก็งกำไรอยู่บ้าง

ซึ่งจุดอ่อนของโฟลว์เก็งกำไรลักษณะที่ว่า จะไม่ได้อยู่นาน เพราะหากเศรษฐกิจมีการเปลี่ยน อย่างเช่นสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น โฟลว์ที่ว่านี้ก็มีโอกาสไหลออกไป

ทั้งนี้ เม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ประเทศตลาดเกิดใหม่ (EM) ส่วนใหญ่เป็นการไหลเข้ากองทุน ซึ่งปีนี้ก็พบว่ามีเงินไหลเข้ามาลงทุนในกองทุน EM อยู่บ้าง รวมถึงไทย เพราะตลาดหุ้นไทยมีสัดส่วนหุ้นพลังงานและธนาคารพาณิชย์ค่อนข้างมาก ซึ่งหุ้นพลังงานจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่หุ้นแบงก์ค่อนข้างปลอดภัย มีพื้นฐานแข็งแกร่ง

“ถ้าเทียบกับประเทศเกิดใหม่รายอื่น ถือว่าไทยค่อนข้างได้เปรียบด้วยโครงสร้าง โดยประเมินว่าฟันด์โฟลว์ที่ไหลเข้าไทยสัดส่วนเกิน 50% เป็นฟันด์โฟลว์จริงไม่ใช่โฟลว์เก็งกำไรรายวัน เพราะถ้าโฟลว์ที่ไหลเข้ามาเก็งกำไรรายวัน

จะอาศัยปัจจัยเหล่านี้ลำบาก เหตุผลคือต้องคาดเดาราคาน้ำมันขึ้นลงให้ถูก ซึ่งถ้ามองในแง่ของนักลงทุนสถาบันยากเกินไป สู้ไปเก็งกำไรน้ำมันเลยทีเดียวง่ายกว่า” ดร.จิติพลกล่าว

ขณะที่แรงเก็งกำไรในกลุ่ม AI Trading “ดร.จิติพล” กล่าวว่า คาดว่ามีไม่น่าเกิน 10% ของวอลุ่มเทรดโดยรวม เพราะตลาดหุ้นไทยไม่ได้มีเสน่ห์ให้เข้ามาขนาดนั้น

โดย AI Trading ไม่ถึงกับการเก็งกำไรรายวัน แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นสัญญาณว่า ถ้าเกิดมีสัญญาณเชิงบวกฟันด์โฟลว์ไหลเข้า โฟลว์เหล่านี้จะมีโมเมนตัมขยับไหลตามเข้ามา และ พอเริ่มมีเงินไหลออก โฟลว์พวกนี้ก็จะขยับออกตาม

“ฟันด์โฟลว์ในตลาดหุ้นช่วงที่เหลือของปีนี้ ถ้าเกิดครึ่งปีหลังเศรษฐกิจชะลอตัวลง ดอกเบี้ยเริ่มสูง อาจจะไม่ได้มีโฟลว์ที่ไหลเข้ามามาก โดยประเมินทั้งปีนี้อาจจะเห็นฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามา 2 แสนล้านบาท พอเป็นไปได้ แต่เกินกว่านี้ยาก เว้นแต่ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น อาจจะทำให้มีโฟลว์ไหลเข้าเพิ่มได้” ดร.จิติพลกล่าว

ส่วน “ประกิต สิริวัฒนเกตุ” กรรมการผู้จัดการ บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ กล่าวว่า ฟันด์โฟลว์ที่ไหลเข้าสู่ตลาดทุนไทยช่วงนี้ ยังไม่เห็นการเข้ามาเก็งกำไร หรือพบพฤติกรรมซื้อ ๆ ขาย ๆ เพราะเห็นชัดว่าโฟลว์ไหลเข้ามาตั้งแต่ต้นปีแล้ว

และช่วงที่ค่าเงินบาทอ่อน ก็ไม่เห็นโฟลว์ไหลออก ตอนนี้ทิศทางค่าเงินบาทต้องแยกกับกระแสเงินทุน เพราะค่าเงินบาทขึ้นอยู่กับดีมานด์ซัพพลายของเงินบาทกับผู้ส่งออกและผู้นำเข้า

“Frequency Trading การซื้อขายก็เหวี่ยงอยู่แล้ว แต่จะไม่เกี่ยวกับโฟลว์ โดยโฟลว์ที่ไหลเข้าอาจไม่ได้เก็งกำไรระยะสั้น แต่ที่เข้ามา เพราะเวลานี้ประเทศไทยดีที่สุดในเอเชีย

เมื่อเทียบ EM รายอื่น นอกจากนี้ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น ฟันด์โฟลว์ก็มีสิทธิทะลักไหลเข้าตลาดทุนไทย รวมถึงโฟลว์จากนักลงทุนไทยเองน่าจะไหลเข้ามาในตลาดหุ้นค่อนข้างมากด้วย” นายประกิตกล่าว

ฟาก “สรพล วีระเมธีกุล” ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ หรือหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รอบ Jakeson Hole ไปแล้ว ตลาดหุ้นจะปรับตัวลงยาก และ ถ้าปัจจัยการเมืองในประเทศนิ่ง เม็ดเงินลงทุนกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่ตอนนี้ขายสุทธิกว่า 1.1 แสนล้านบาท จะกลับเข้ามาทยอยสะสมหุ้น และเป็นตัวผลักดันตลาดหุ้นไทย