บมจ. พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันแรก 21 ต.ค. 65 โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า “PCC”
วันที่ 20 ตุลาคม 2565 บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- KNLA ถอนกำลังจากเมียวดี ไปโจมตีทหารเมียนมากองพล 55 ผู้ลี้ภัยข้ามฝั่งกลับแล้ว
บริษัทประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น ประกอบด้วยสายธุรกิจหลัก 3 สาย ดังนี้
- สายธุรกิจ ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ในระบบจำหน่ายไฟฟ้า งานบริหารโครงการ งานบริการ งานบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าทั้งแรงต่ำและแรงสูงขนาดไม่เกิน 115 kv และระบบบริหารจัดการพลังงาน ให้มีประสิทธิภาพ (Power Distribution & Energy Management System)
- สายธุรกิจรับเหมาก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูงและสายส่งไฟฟ้าแรงสูง พร้อมผลิตติดตั้งระบบควบคุมสำหรับระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ และผลิตมิเตอร์อัจฉริยะ (Intelligent Grid)
- สายธุรกิจ ลงทุนผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และผลิตเชื้อเพลิงจากพืชพลังงาน และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (Renewable Energy)
สัดส่วนรายได้
โครงสร้างรายได้ของกลุ่มบริษัท สำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562, 2563 และ 2564 และงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564-2565 สามารถสรุปได้ดังต่อไปนี้สามารถสรุปได้ดังต่อไปนี้
กลุ่มบริษัทดำเนินธุรกิจหลักและธุรกิจอื่น ตามรายการข้างต้น มีโครงสร้างรายได้สำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562, 2563 และ 2564 และงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 สามารถสรุปได้ดังต่อไปนี้
สรุปฐานะทางการเงิน
ผลประกอบการ
ขายหุ้นไอพีโอ 370 ล้านหุ้น
เสนอขายไอพีโอจำนวนไม่เกิน 307,000,000 หุ้น ซึ่งประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัท คิดเป็นร้อยละ 25.03 ของจํานวนหุ้นสามัญที่ออกและชําระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
แผนระดมทุน
บริษัทมีวัตถุประสงค์การใช้เงินของบริษัท จำนวน 1,194 ล้านบาท ดังนี้
จ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40%
นโยบายการจ่ายปันผลของบริษัท กำหนดให้จ่ายได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักสำรองตามกฎหมายของแต่ละปี ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงไปจากอัตราที่กำหนดไว้
โดยขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน ฐานะการเงิน สภาพคล่อง ความจำเป็นในการใช้เงินเพื่อการลงทุนและขยายงานในอนาคต โครงสร้างและภาระผูกพันทางการเงิน การลงทุน ความจำเป็นและความเหมาะสมอื่น ๆ ที่ทางคณะกรรมการบริษัทเห็นสมควร