ฟื้น “ช้อปช่วยชาติ” หุ้นไหนได้ประโยชน์

หุ้น-ดัชนี

ฟื้นมาตรการ “ช้อปช่วยชาติ” หุ้นไหนได้ประโยชน์พร้อมกลยุทธ์การลงทุนกับ “สุนทร ทองทิพย์” ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย (จำกัด) มหาชน

วันที่ 31 ตุลาคม 2565 มาตรการเศรษฐกิจของทางรัฐบาลที่คาดว่าจะออกมาในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า เป็นอะไรที่หลาย ๆ คนจับตาดูถึงแนวทางหรือรูปแบบของมาตรการจะออกมาเป็นอย่างไร โดยเฉพาะมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” หรือชื่อเดิมก็คือ “ช้อปช่วยชาติ” ที่คาดว่าจะออกมาในช่วงต้นปีหน้านี้ และก็คาดว่าจะมาช่วยทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความคึกคักมากขึ้น

ซึ่งวันนี้เราก็จะมาดูกันว่าหุ้นตัวไหนบ้างที่ได้ประโยชน์จากมาตรการช้อปดีมีคืน พร้อมกับกลยุทธ์การลงทุน กับ “สุนทร ทองทิพย์” ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย (จำกัด) มหาชน

Q : กระแสของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมาในช่วงปลายปี อาทิ เที่ยวด้วยกัน คนละครึ่งหรือว่าช้อปดีมีคืน ที่คาดว่าจะเข้า ครม.กลางเดือน พ.ย.นี้ มองว่าจะมีผลซัพพอร์ตต่อตลาดหุ้นไทยอย่างไรบ้าง

ก็ต้องเรียนทางคุณผู้ฟังอย่างนี้ว่า ผมอ่านว่าหลังจากที่ตอนนี้เราต้องเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ เพราะตามกำหนดการก็คือภายใน 4 ปีก็จะครบเทอมของท่านในเดือน มี.ค.ปีหน้า ซึ่งเราคาดการณ์ว่าในช่วงโค้งสุดท้ายคือไตรมาส 4 และไตรมาส 1 ในปีหน้า เราน่าจะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อที่จะ  ซัพพอร์ตในแง่ของ GDP ของบ้านเราให้โตไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางแผนไว้ และอีกส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นในเรื่องของการสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนด้วย เท่าที่ติดตามข่าวดูเหมือนกับว่ามาตรการจะมีอยู่ 2-3 เรื่องที่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพูดออกมาแล้ว

เรื่องแรกก็คือการต่ออายุมาตรการคนละครึ่งเป็นเฟสที่ 6 เพราะดูเหมือนมาตรการนี้จะค่อนข้างบรรลุเป้าหมายได้ดีมาก ก็คือการใช้จ่ายทะลุ 3-4 หมื่นล้านบาท เรื่องที่สองที่วันนี้เราจะคุยกันก็คือตัวของมาตรการช้อปดีมีคืน อันนี้ยังไม่แน่ใจว่ารายละเอียดจะเป็นอย่างไร แต่เดี๋ยวผมได้มีการเตรียมมาตรการอันนี้ที่มีชื่อว่าช้อปดีมีคืนหรือว่าช้อปช่วยชาติในอดีตมาให้คุณผู้ฟังดูว่าในอดีตว่าแนวทางการนำไปใช้ของมาตรการนี้เป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็อีกอันหนึ่งที่น่าสนใจก็คือว่ารัฐบาลก็เปรย ๆ ออกมาว่ารอบนี้อาจจะมีรวมพ่วงในเรื่องของการท่องเที่ยวเข้ามาด้วย เพราะว่าตัวมาตรการเราเที่ยวด้วยกันก็จะหมดอายุในช่วงสิ้นเดือน ต.ค.นี้ เดี๋ยวคงต้องติดตามดูว่ารายละเอียดจะเป็นอย่างไร

ก็มาตรการช้อปดีมีคืน ก็ต้องบอกว่าคุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีการเปรยออกมาว่าอาจจะใช้ในช่วงต้นปีหน้า คือเนื่องจากว่าท่านบอกว่าปีนี้ GDP น่าจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้แล้วคือ 3-3.5% ในส่วนของเบื้องต้นที่ทางคลังประเมินเขาคาดว่าถ้ามีผู้ใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีประมาณ 1.1 ล้านคน น่าจะเห็นการกระตุ้นเงินหมุนเวียนในระบบ 33,000 ล้านบาท แล้วก็ทางรัฐบาลก็จะมีในเรื่องของตัวรายจ่ายตรงนี้ประมาณ 5,000 ล้านบาท ช้อปดีมีคืนเป็นมาตรการที่กระตุ้นการใช้จ่ายก็คือให้ผู้เสียภาษีเงินได้มีการนำใบกำกับภาษี ซึ่งตรงนี้ถ้าเป็นสินค้าที่เสียภาษี VAT หรือว่าภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วเราก็เอาใบตรงนี้ไปเป็นหลักฐานการขอคืนภาษีในช่วงที่เรานำส่งสรุปภาษีแต่ละคนก็คือเอาไว้ลดหย่อน

ซึ่งถ้าคุณผู้ฟังดูจาก Presentation ที่ผมโชว์ให้ดู อันนี้ผมดึงมาจากเว็บไซต์ Money and Insuranc  ก็จะพบว่าสินค้าที่สามารถเข้าร่วมรายการได้ในอดีตของมาตรการนี้ก็จะเป็นสินค้าและบริการทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นของกิน ของใช้ ก็คือถ้ามีใบกำกับภาษีก็ใช้ได้หมด ในอดีตค่าที่พักโรงแรม ค่าบริการนำเที่ยวก็ไม่นับแต่รอบนี้ไม่แน่นะครับ เพราะฉะนั้นก็คิดว่าน่าจะเป็นมาตรการที่ต้องการกระตุ้นการใช้จ่ายของคนชั้นกลางเป็นหลักแบบมนุษย์เงินเดือนขึ้นไป อันนี้ก็จะเป็นมาตรการคร่าว ๆ ซึ่งเรายังไม่รู้นะว่าสุดท้ายแล้วรายละเอียดมันจะเป็นอย่างไรเพราะอันนี้คือมาตรการในอดีตครับ

Q : แต่เราก็จะเห็นว่าตอนนี้คือยังไม่ออก แต่แค่มีข่าวออกมาเหมือนว่าตลาดหุ้นเองก็รับข่าวไปแล้วและมีการบวกขึ้นมาด้วยใช่ไหม

ต้องถามว่ามาตรการนี้จะเป็นบวกกับบริษัทไหนบ้างในตลาด อันนี้ก็ให้น้อง ๆ ในทีมช่วยทำข้อมูลขึ้นมาให้ก็หลัก ๆ เรามองผลบวก 3 กลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการนี้ กลุ่มแรกคือถ้าเห็นในรูปนะก็คือ Commerceคือกลุ่มค้าปลีกทั้งหมดเลยที่ขายสินค้าและบริการ จริง ๆ ผมคิดว่าร้านอาหารจริง ๆ ก็ได้ประโยชน์ด้วย แต่พอดีเราไม่ได้ลิสต์เข้ามา กลุ่มที่สองก็คือห้างสรรพสินค้า เพราะห้างจะได้รับอานิสงส์เรื่องของ Traffic ที่เพิ่มขึ้นและก็อาจจะมีส่วนแบ่งรายได้กับร้านค้าที่อยู่ในห้าง

และกลุ่มที่สามที่สำคัญมากคือบัตรเครดิตก็จะมี KTC, AEON แต่ว่าถ้าดูจากตรงนี้พี่คิดว่าตัวหลัก ๆ เลยน่าจะเป็นตัว KTC เพราะว่าเป็นฐานของลูกค้า เขาเรียกมนุษย์เงินเดือนหรือว่าตัวของ Middle Income ก็ถ้าดูจากอันนี้เราจะลอง Run Performance ดูนะครับในช่วงมาตรการ 6 ครั้งก่อนก็คือก่อนหน้ามาตรการ 1 สัปดาห์ 2 สัปดาห์ 1 เดือนแล้วก็ 2 เดือน เราจะพบว่าก่อนมาตรการจะมีผล 1 เดือนหุ้นโดยรวมไปนับปีที่ตลาดหุ้นแปลก ๆ หรือเป็นขาลง

ส่วนใหญ่กลุ่มค้าปลีกและกลุ่มบัตรเครดิตรวมถึงห้างจะปรับตัวขึ้น ดูกรอบขวาล่างจะเห็นชัดเจนเลยว่ามาตรการเพิ่งใช้เมื่อ 1 ม.ค.-15 ก.พ.ก็จะเห็นได้ว่า CPN บวกขึ้นมา 5% KTC บวกขึ้นมา 8% AEON อาจจะบวกน้อยหน่อย 0.5% แต่ว่าโดยรวมพี่คิดว่าตัวที่ได้ประโยชน์ตรงมาก ๆ ก็คือ KTC เพราะว่าส่วนใหญ่คนก็จะรูดไปก่อนพอครบแล้วค่อยจ่าย

Q : อันนี้คือหุ้นที่คัดมาแล้วทั้งหมดเลยใช่ไหม หุ้นได้ประโยชน์ได้กลุ่มอื่นมีอะไรบ้าง

ใน Commerce พอดีไม่ได้ไล่เป็นรายตัวให้ดูนะ แต่ถ้าให้เลือกถามว่าใครควรจะเป็นคนที่ได้รับประโยชน์โดยตรง ก็ต้องกลับไปเราคุยกันเมื่อกี้ว่า 30,000 บาทใช่ไหม ปกติเวลาไปซื้อของแล้วขอใบกำกับภาษี สู้เราไปซื้อของชิ้นใหญ่เลยดีกว่าคือ 1,000-2,000 บาทหรือว่าหลักหมื่นมันสะดวกกว่า เพราะฉะนั้นคนที่ขายสินค้าแบบชิ้นใหญ่น่าจะได้ประโยชน์มากที่สุด ถ้าให้เลือกในแง่ของ Commerce พี่อ่านว่าตัว COM7, CRC หรือแม้แต่ HMPRO น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายโดยตรง

ถ้าดูจากสถิติที่ผ่านมาส่วนใหญ่คนจะเล่นล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน เพราะว่าพอไปใกล้ช่วงมาตรการแล้วหุ้นจะไม่ค่อยเลี้ยงแล้ว อย่างเราดูจากชาร์ตนี้จะเห็นเลยว่าช่วงก่อนหน้ามาตรการ 1 สัปดาห์หุ้นเริ่มไม่ขึ้นแล้ว ขึ้นน้อยหรือบางทีลงด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นเนี่ยคิดว่าก็ต้องเล่นดัก 1 เดือน คือถ้ามาตรการใช้ 1 ม.ค. ก็เล่นตอนช่วงประมาณปลายปีนี้ ประมาณ พ.ย.-ธ.ค. ก็สะสมไปแล้วก็ไปขายตอนช่วงต้นปีหน้า

Q  : มีอะไรจะเสริมไหมคะ

ก็ต้องบอกคุณผู้ฟังว่าผมคิดว่ามุมมองในแง่ของตลาดหุ้นไทย รวมถึงกลุ่มที่เราคุยกันวันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่เป็นเรื่องของ Reopening Play เลยคือกลุ่มเปิดเมือง ซึ่งก็จะเป็นกลุ่มที่เราคาดว่าแนวโน้มของผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังปีนี้และปีหน้ามีแนวโน้มที่จะดีขึ้นต่อเนื่อง แล้วก็คิดว่าน่าสนใจที่จะซื้อเพื่อลุ้นผลประกอบการที่ฟื้นตัวในปีหน้า แล้วก็ต้องบอกว่าส่วนใหญ่เลยปีหน้าจุดสำคัญที่สุดคือการกลับมาของนักท่องเที่ยว

ซึ่งทางหลักทรัพย์กสิกรไทยเราคาดว่านักท่องเที่ยวน่าจะกลับมาในระดับประมาณ 25 ล้านคนในปีหน้าจากปีนี้ที่เข้ามาประมาณ 10 ล้านคน เพราะฉะนั้นตัวของการเติบโตจากที่นักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะ ๆ กลุ่มต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น Commerce, ห้างสรรพสินค้า, บัตรเครดิตพวกนี้ได้ประโยชน์หมด