หุ้นไทยแกว่งแคบท้ายสัปดาห์ ยอดส่งออกรถ-ตลาดอสังหาโต โควิดจีนพีกฉุดตลาด

ตลาดหุ้น

บล.ฟิลลิป ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดดัชนี SET Index แกว่งแคบส่งท้ายสัปดาห์ในกรอบ 1,620-1,635 จุด หลังไร้ปัจจัยชี้นำจากตลาดสหรัฐปิดทำการเนื่องในวัน Thanksgiving Day วานนี้ แต่ตลาดถูกกดดันจากผู้ติดโควิดในจีนทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หวังแรงหนุนในประเทศจากยอดส่งออกรถยนต์ไทยเดือน ต.ค. โต 15.5% ตลาดอสังหาฯกลุ่มบ้านแนวราบโตหนุนการจ้างงานฟื้นตัว

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า คาดดัชนี SET Index แกว่งแคบส่งท้ายสัปดาห์ในกรอบ 1,620-1,635 จุด หลังไร้ปัจจัยชี้นำจากตลาดสหรัฐ ซึ่งปิดทำการเนื่องในวัน Thanksgiving Day วานนี้ แต่ตลาดหุ้นยุโรปยังปิดในแดนบวกได้

อย่างไรก็ดี ตลาดน่าจะยังถูกกดดันต่อเนื่องจากผู้ติดโควิดในจีนที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้คาดทางการจีนจะยังใช้มาตรการล็อกดาวน์ในเขตสำคัญต่อไป แม้ว่าจะควบคู่ไปกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อหวังบรรเทาผลกระทบก็ตาม

ส่วนปัจจัยในประเทศยังอิงทางบวก นำโดยยอดส่งออกรถยนต์ไทยเดือนตุลาคมฟื้นตัว ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มบ้านแนวราบหลังการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหนุนการจ้างงานฟื้นตัว

โดยรายละเอียดปัจจัยบวกทั้งหมดคือ 1.เฟดแอตแลนตาเผย GDPNow เพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 4/65 จาก +4.2% สู่ +4.3% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน

2.สหรัฐเตรียมผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรและอนุญาตเชฟรอนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันของเวเนซุเอลา เพื่อหวังผ่อนคลายภาวะอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว

3.สอท.เผื่อยอดผลิตรถยนต์เดือนตุลาคมโต 10.83% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อนจำนวน 1.7 แสนคัน ขณะที่ยอดส่งออกเติบโต 15.5% จำนวน 9.4 หมื่นคัน จากปัญหาชิปเซมิคอนดักเตอร์คลี่คลาย การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ คนมีงานทำและรายได้เพิ่มขึ้น

4.ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) คาดตลาดอสังหาฯใน กทม.และปริมณฑลปีนี้มียอดการโอนที่ 1.87 แสนยูนิต เพิ่มขึ้น 11.6% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากยอดขายบ้านแนวราบ

ส่วนรายละเอียดปัจจัยลบคือ 1.โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงจะไม่ส่งน้ำมันให้แก่กลุ่มประเทศที่เข้าร่วมกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียให้อยู่ในกรอบ 65-70 เหรียญต่อบาร์เรล

2.ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของเฟดได้แจ้งเตือนบรรดากรรมการเฟดในเดือนนี้ว่ามีโอกาสสูงขึ้นเกือบ 50% ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566

3.สถานการณ์โควิดในจีนยังไม่สู้ดี หลัง NHC เผยผู้ติดเชื้อรายวันแตะ 3.1 หมื่นราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย สูงสุดนับตั้งแต่การระบาดของโรค กดดันการล็อกดาวน์เขตสำคัญ รวมทั้งเมืองเจิ้งโจวที่มีฐานการผลิต iPhone

โดยกลยุทธ์ลงทุนแนะนำธีม 1.อุตสาหกรรมยานยนต์ AH, GPSC, SAT 2.เปิดเมืองจับจ่ายใช้สอย AAV, BTG, CENTEL, KTC, MAJOR 3.ตลาดอสังหาริมทรัพย์ AP, DPAINT, ILM

สำหรับหุ้นเด่นวันนี้แนะนำซื้อ AH แนวรับ 32-32.75 บาท ราคาเป้าหมาย 34.25-35.50 บาท และ KTC แนวรับ 57.50-58.25 บาท ราคาเป้าหมาย 60-61.50 บาท