ทิสโก้ เคาะ 4 กองทุนเด็ดชนะตลาดปี 2566

ทิสโก้ เคาะ 4 กองทุนเด็ด

ธนาคารทิสโก้ เคาะ 4 กองทุนเด็ด จาก 4 บลจ. ชั้นนำ เน้นหุ้นจีน-เวียดนาม-เฮลท์แคร์-ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ เพิ่มโอกาสสร้างกำไรชนะตลาดในปี 2566 

วันที่ 26 มกราคม 2566 นายพิชา รัตนธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวเปิดการสัมมนา Fight For Opportunities “เปิดสังเวียนการลงทุนโลก 2023 ธีมไหนสร้างกำไรชนะตลาด” ว่าจากแนวโน้มที่คนไทยมีโอกาสอายุยืนขึ้นถึง 100 ปี ธนาคารทิสโก้จึงมุ่งมั่นในการยกระดับการวางแผนการเกษียณให้ลูกค้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Megatrends Retirement Planning” ด้วยการพลิกโฉมผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ครอบคลุมการสร้างความมั่งคั่ง (Megatrends Investment) และปกป้องความเสี่ยง (Megatrends Protection) ที่เพียงพอต่อชีวิตหลังเกษียณที่ยืนยาวขึ้นและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคน

สำหรับในมุมของ Megatrends Investment ปีนี้ นอกจากการช่วยให้พอร์ตการลงทุนของลูกค้าก้าวข้ามวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดในกลุ่มประเทศหลักแล้ว การคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสสร้างผลกำไรให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดแบบ Exponential Curve หรือการเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัวอย่างคุ้มค่ากับความเสี่ยง ซึ่งเป็นแนวทางที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการจัดพอร์ตการลงทุนเพื่อรองรับการเกษียณ

ด้านนายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสที่ปรึกษาการลงทุนทิสโก้เวลธ์ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมการลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งที่เพียงพอกับชีวิตที่ยืนยาวหลังเกษียณ ว่า การลงทุนในธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลกยังคงน่าสนใจ ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังมีความท้าทายสูง

เพราะไม่เพียงสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว แต่ยังสามารถฟันฝ่าความผันผวนระยะสั้นที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละปีด้วย ซึ่งในปี 2566 ธนาคารทิสโก้ยังคงแนะนำให้ลงทุนในธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลก เพราะนอกจากจะสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวแล้วในปีนี้ยังเป็นโอกาสลงทุนจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมาอีกด้วย

ซึ่งปี 2566 ธนาคารทิสโก้มองว่าเป็นปีที่มีโอกาสการลงทุนอยู่มาก และเป็นจังหวะที่เหมาะสำหรับลงทุน โดยเฉพาะ 2 ธีมการลงทุน ได้แก่

1.High Potential Country ซึ่งเป็นการลงทุนในประเทศที่เศรษฐกิจ-กำไร บจ.โตสูง ราคาหุ้นไม่แพง ได้แก่ ตลาดหุ้นจีน และเวียดนาม

2.High Demand Sector ธุรกิจเมกะเทรนด์ จำเป็นต่อโลก โตสวนเศรษฐกิจชะลอตัว ได้แก่ 1.กลุ่มหุ้นเฮลท์แคร์ ที่ได้อานิสงส์จากสังคมผู้สูงอายุและนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า 2.กลุ่มเทคโนโลยีที่มีรายได้ประจำ (Recurring income) และ 3.โครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค โดยคาดว่าทั้ง 2 ธีมการลงทุนที่มีโอกาสสร้างกำไรชนะตลาด มีแนวโน้มการเติบโตสวนทางกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

สำหรับกองทุนที่น่าสนใจลงทุนตาม 2 ธีมแนะนำ ธนาคารทิสโก้ได้คัดเลือกกองทุนจาก 4 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ชั้นนำมาให้ลูกค้าพิจารณาลงทุน ได้แก่ กองทุนจาก บลจ.กรุงศรี บลจ.พรินซิเพิล บลจ.ทิสโก้ และ บลจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์

แนะนำกองทุน KFCMEGA-A และ PRINCIPAL–VNEQ-A น่าลงทุนในธีม High Potential Country

นายเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับกองทุนเปิดกรุงศรีไชน่าเมกะเทรนด์-สะสมมูลค่า (KFCMEGA-A) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟต่างประเทศที่มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในประเทศจีน และ/หรือมีธุรกิจหลักหรือมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการประกอบธุรกิจในประเทศจีน

โดยเป็นหลักทรัพย์ของบริษัทที่เกี่ยวข้องหรือได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเมกะเทรนด์ (Mega Trends) เช่น การเติบโตของ E-Commerce ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี สังคมผู้สูงอายุ หรือการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

นายชาตรี มีชัยเจริญยิ่ง หัวหน้าการลงทุนฝ่ายตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับรายละเอียดกองทุนเปิด พรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ (ชนิดสะสมมูลค่า) (PRINCIPAL –VNEQ-A) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) กองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือมีธุรกิจหลักในประเทศเวียดนามที่เชื่อว่ามีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต

รวมทั้งตราสารทุนอื่นใดที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องและ/หรือที่ได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศดังกล่าว และ/หรือตราสารทุนของผู้ประกอบการเวียดนามที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศอื่น และ/หรือกองทุนรวมอื่นที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งทุน และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศ ที่เน้นลงทุนในตราสารทุนประเทศเวียดนาม ส่วนในธีม High Demand  Sector ต้องกองทุน TBIOTECH และ LHCYBER-A

นายสากล รัตนวรี ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า สำหรับกองทุนแนะนำของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด คือ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไบโอเทคโนโลยี เฮลธ์แคร์ (TBIOTECH) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) กองทุนรวมตราสารทุนที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Polar Capital Funds plc – Biotechnology ชนิดหน่วยลงทุน I US Dollar (กองทุนหลัก)

ซึ่งมีนโยบายลงทุนอย่างน้อย 51% ของมูลค่าทรัพย์สินในตราสารทุนของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) การวินิจฉัยโรค (Diagnostics) และเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต (Life Sciences Tools) ทั่วโลก กองทุนดังกล่าวบริหารและจัดการโดย Polar Capital LLP


นายจิตติพงศ์ มีเพียร ผู้จัดการกองทุน ฝ่ายการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดเผยว่า กองทุนเปิด แอล เอช โกลบอล ไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ (LHCYBER-A) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Global X Cybersecurity ETF ที่มีนโยบายลงทุนในบริษัทที่ดำเนินการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ กองทุนดังกล่าวบริหารและจัดการโดย Global X Management Company LLC