สรุปภาพรวมกองทุนเดือนม.ค.ผลตอบแทนหุ้นทั่วโลกบวกขึ้น 7.1%

กองทุน-กองทุนรวม
ภาพจาก PIXABAY

มอร์นิ่งสตาร์ ชี้ผลตอบแทนหุ้นทั่วโลกที่ฟื้นตัวในเดือนมกราคมทำให้ Morningstar Global Market Index อยู่ที่ +7.1% ด้านกองทุนตราสารหนี้เทอมฟันด์เปิดใหม่เงินไหลเข้าสูงสุด

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยข้อมูลกองทุนรวมไทย ณ 31 มกราคม 2566 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ราว 1.3%

มูลค่าทรัพย์สินโดยรวมเพิ่มขึ้น 1.3%

กองทุนรวมไทยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.9 ล้านล้านบาท (ไม่รวมกองทุนปิด ETF, REIT, Infra) เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2565 ราว 1.3% กลุ่มกองทุนตราสารทุนมีมูลค่าทรัพย์สิน 1.44 ล้านล้านบาท และกองทุนตราสารหนี้อยู่ที่ 1.40 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.9% และ 2.8% ตามลำดับ

กลุ่มกองทุนตราสารหนี้มีเงินไหลเข้าสูงสุด

กองทุนรวมตราสารหนี้มีเงินไหลเข้ารวม 3.6 หมื่นล้านบาท โดยส่วนใหญ่เกิดจากการเปิดกองทุนใหม่ประเภท term fund นอกจากนี้ยังมีเงินไหลเข้ากองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ เช่น กลุ่ม Global Bond ที่มีเงินไหลเข้าสุทธิ 5.1 พันล้านบาท หลังจากมีเงินไหลออกสุทธิทั้งปีที่แล้ว 2.2 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ฝั่งเงินไหลออกสูงสุดยังคงเป็นกลุ่ม Money market ด้วยมูลค่าราว 1.7 หมื่นล้านบาท สะท้อนการกลับเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าทั้งตราสารหนี้จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และตราสารทุนที่ในเดือนมกราคมโดยรวมเป็นบวก

เงินไหลออกกองทุน LTF น้อยกว่าปีที่แล้ว

ในปีนี้เงินครบกำหนดไถ่ถอนตามเงื่อนไข 7 ปีปฏิทินจะเป็นเงินลงทุนจากปี 2560 โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีดังกล่าวนั้นมีเงินไหลเข้ากองทุน LTF รวมราว 3.8 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดี ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีเงินไหลออกสุทธิกองทุน LTF รวม 6.1 พันล้านบาท ต่ำกว่าเดือนมกราคมปี 2565 ที่ 8.4 พันล้านบาท และจากเม็ดเงินกองทุน LTF นี้ ส่งผลให้กองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ (Equity Large-Cap) มีเงินไหลออกมากเป็นอันดับ 2 ในเดือนที่ผ่านมา

ผลตอบแทนเฉลี่ยโดยรวมเป็นบวก

จากผลตอบแทนหุ้นทั่วโลกที่ฟื้นตัวในเดือนมกราคมทำให้ Morningstar Global Market Index อยู่ที่ +7.1% เทียบกับทั้งปี 2565 ที่ -17.6% ส่งผลให้กองทุนส่วนใหญ่มีผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกในเดือนที่ผ่านมา นำโดยกลุ่ม Global Technology ที่ +13.3% ตามมาด้วยกองทุนหุ้นจีน +8.5%

ในด้านผลตอบแทนติดลบนั้นมีเพียง 3 กลุ่มคือ กลุ่มหุ้นอินเดีย -2.3% กลุ่มกองทุนน้ำมัน (Commodities Energy) -2.2% และหุ้นขนาดใหญ่ (Equity Large-Cap) -0.7% โดย SET TR รอบเดือนมกราคมอยู่ที่ +0.2%