อาคม ชี้เศรษฐกิจไทยควรโตปีละ 4-5% คาดปีนี้โตได้ 3-4%

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง

รมว.คลัง แจงเศรษฐกิจไทยทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง ตั้งเป้าระดับที่เหมาะสมต้องโต 4-5% ต่อปี คาดปีนี้โตได้ 3-4% เงินเฟ้อทยอยลดลงเข้าสู่กรอบ 3% ยันฐานะการเงินการคลังมั่นคง

วันที่ 9 มีนาคม 2566 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวในงานสัมมนา The NEXT Thailand’s Future : จุดเปลี่ยนประเทศไทยสู่ความยั่งยืน จัดโดยธนาคารกรุงไทย ว่า ที่ผ่านมา มักจะมีคำพูดว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตช้ากว่าเพื่อนบ้านในอาเซียน แต่หากลองไปดูสถิติตั้งแต่ปี 2563-2566 นี้ การเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของไทย ค่อย ๆ ปรับระดับเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“เราเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แต่จะไปพีกเมื่อไหร่ยังไม่รู้ โดยเราวางแผนกันไว้ว่า การเติบโตในระดับ 4-5% เป็นระดับที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย ซึ่งต้องเพิ่มผลิตภาพ เพิ่มทักษะฝีมือแรงงานด้วย” นายอาคมกล่าว
สำหรับปี 2566 นี้ กระทรวงการคลังมองเศรษฐกิจไทยจะเติบโต 3-4% แต่เป็นตัวเลขเดิมที่ยังไม่ได้ปรับประมาณการ ซึ่งจะต้องพิจารณาเครื่องชี้ทางด้านเศรษฐกิจในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.อีกที

ก่อนจะสรุปว่าปีนี้จะยังยืนยันการเติบโตที่ 3.8% หรือไม่ ตามตัวเลขของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ขณะที่แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในปีนี้ ขณะนี้ 3 หน่วยงานเศรษฐกิจ ได้แก่ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ สศช. มองในทิศทางเดียวกันว่า เงินเฟ้อปีนี้จะชะลอตัวลงสู่กรอบ 1-3% ซึ่งเป็นกรอบที่ตกลงกันไว้ระหว่างกระทรวงการคลังกับ ธปท.

นายอาคมกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันฐานะการเงินการคลังของไทยมีความมั่นคงมาก โดยด้านฐานะการเงิน ไทยมีทุนสำรองเงิตราระหว่างประเทศกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนฐานะการคลัง เงินคงคลังก็อยู่ในระดับที่มีความมั่นคง “แนวนโยบายคือ ต้องรักษาเสถียรภาพทางด้านการเงินการคลัง ซึ่งแม้ว่าเราจะเจอวิกฤตโควิด ต้องกู้เงินมา แต่ฐานะการคลังของเราก็ยังมั่นคง” นายอาคมกล่าว