วิริยะลั่นปี’66 พลิกกำไร 2 พันล้าน ลุยรับ “ประกันรถอีวี” 1 หมื่นคัน

รถอีวี

วิริยะประกันภัยตั้งเป้าปี’66 พลิกมีกำไร 2,000 ล้านบาท ฟื้นไข้จ่ายเคลมโควิด “เจอจ่ายจบ” เล็งขยายเบี้ยปีนี้ 4.3 หมื่นล้าน โต 6% ประกาศครองมาร์เก็ตแชร์รถอีวีเบอร์ 1 ต่อเนื่อง ลุยรับประกันเพิ่ม 1 หมื่นคัน

นายอมร ทองธิว กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทคาดว่าจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 2,000 ล้านบาท หลังจากปี 2565 ขาดทุนสุทธิกว่า 9,000 ล้านบาท จากผลกระทบการจ่ายเคลมสินไหมประกันภัยโควิดแบบเจอจ่ายจบ

โดยปัจจุบันบริษัทเพิ่มความรัดกุมมากขึ้นในการรับประกัน มีการทดสอบ stress test สำหรับสินค้าใหม่ที่จะออกมาขายเข้มงวดขึ้น

ทั้งนี้ ปีนี้ตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 43,000 ล้านบาท หรือเติบโต 6% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) จากเบี้ยประกันรถยนต์ (motor) 37,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% และเบี้ยประกันที่ไม่ใช่รถ (nonmotor) อีก 5,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%

นายอมร-ทองธิว-กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ

“ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ผลงานเบี้ยเป็นไปตามแผน โตกว่า 5% โดยวิริยะยังคงครองมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยไทยมากว่า 3 ทศวรรษ หรือนับตั้งแต่ปี 2535 โดยปีที่ผ่านมา เรามีเบี้ยรับรวมกว่า 40,991 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.78% จากปี 2564 และยังคงครองแชมป์ตลาดประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยมีรถอีวีที่อยู่ในความคุ้มครองกว่า 5,286 คัน”

โดยกลยุทธ์ในปีนี้จะเป็นปีแห่งนวัตกรรมบริการ “ทุกความเสี่ยงภัย เราพร้อมเคียงข้างคุณ” ซึ่งตั้งเป้าหมาย 3 ด้านหลัก คือ 1.ด้านช่องทางการขาย มีเป้าหมายพัฒนาให้สำนักงานตัวแทนสามารถออกกรมธรรม์กระดาษและกรมธรรม์ดิจิทัลได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ทั้งตัวแทนและลูกค้า นอกจากนี้ ได้พัฒนาช่องทางการขายบนเว็บไซต์สำหรับขายประกันสุขภาพรายบุคคล

2.ด้านบริการสินไหมทดแทน ตั้งเป้าขยายผลระบบเคลมออนไลน์ “VClaim on VCall” ที่เริ่มทำมา 1-2 ปี ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และเพิ่มจุดรอตรวจสอบอุบัติเหตุมากขึ้นตามแต่ละสถานที่ที่มีการเกิดอุบัติเหตุสูง โดยใช้ข้อมูลเคลมที่มีอยู่เกือบ 1 ล้านเคลมต่อปีมาประเมิน เพื่อให้พนักงานเข้าไปบริการได้อย่างรวดเร็วที่สุด รวมถึงนำเอไอมาใช้ประเมินและสรุปความเสียหายควบคู่ไปกับพนักงานสินไหมทดแทน

3.ด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ ปีนี้มีแผนออกสินค้าใหม่ เช่น ประกันสุขภาพ, ประกันอะไหล่รถยนต์, ประกันรถยนต์ขับดีมีคืน, ประกันรถอีวี เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสินค้ากว่า 60 แบบ โดยขั้นตอนการพัฒนาสินค้าได้ใช้ข้อมูลที่มีอยู่มากกว่า 8 ล้านกรมธรรม์ ย้อนหลังไปหลายสิบปีเพื่อคำนวณหาเบี้ยประกันและความคุ้มครองที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มลูกค้า

“เรามีความมั่นใจมากที่จะรับประกันรถอีวี เพราะได้มีการศึกษาและทำงานร่วมกับผู้ผลิตรถมาอย่างต่อเนื่อง 4-5 ปีแล้ว โดยเข้าใจตั้งแต่กระบวนการตรวจสอบอุบัติเหตุ การยกหรือลากรถ และการซ่อมแซมรถ” นายอมรกล่าว

นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.วิริยะประกันภัย กล่าวว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าเบี้ยประกันรถอีวีเติบโต 100% หรือเบี้ยรับกว่า 20 ล้านบาท หรือจำนวนรถอีวีเพิ่มขึ้นอีก 1 หมื่นคัน จากปีที่ผ่านมามีเบี้ยรถอีวีกว่า 10 ล้านบาท และมีรถอีวีอยู่ในความคุ้มครอง 5,286 คัน ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นรถอีวีจากพาร์ตเนอร์ อย่างค่ายเกรท วอลล์ มอเตอร์ ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสแรกนี้ คาดว่าจะมีแรงหนุนจากงานมอเตอร์โชว์ที่จะจัดขึ้นช่วงวันที่ 22 มี.ค.-2 เม.ย. 2566

“ส่วนอัตราความเสียหาย (loss ratio) ยังมีไม่มาก บางกรณีที่เกิดเหตุกระทบตัวแบตเตอรี่ส่วนใหญ่ แล้วจะคืนทุนประกัน เพราะค่าแบตเตอรี่คิดเป็น 70-80% ของราคารถแล้ว ทำให้ปัจจุบันจำเป็นต้องทำให้เบี้ยแพงกว่ารถสันดาปประมาณ 10% หากความเสียหายไม่กระทบตัวแบตเตอรี่ เปลี่ยนเฉพาะบางชิ้นส่วนได้”


นางฐวิกาญจน์ เตชทวีทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.วิริยะประกันภัย กล่าวว่า ปีนี้แผนธุรกิจน็อนมอเตอร์จะมุ่งเน้นต่อยอดช่องทางตัวแทนนายหน้า โดยโฟกัสโปรดักต์การขายสินค้าที่ขายคล่อง เช่น ประกันอุบัติเหตุ, ประกันเดินทาง, ประกันบ้าน, ประกันอะไหล่รถยนต์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงพัฒนาประกันอะไหล่รถยนต์ เพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ซื้อประกันรถภาคสมัครใจ นอกจากนี้ จะขยายโปรดักต์เจาะกลุ่มเอสเอ็มอีช่วงการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ รวมไปถึงมีแผนจะวางขายประกันมะเร็งแบบเจอจ่ายจบ ที่จะเพิ่มค่ารักษาให้ลูกค้า คาดว่าจะวางขายในเร็ว ๆ นี้