
Smart Group ยกระดับบริการสำรวจภัย เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ปลดล็อกปัญหาความล่าช้า-ประสานยุ่งยาก-ควบคุมคุณภาพไม่ได้ ชูจุดเด่น One Stop Service ขยายงาน-พันธมิตร เพิ่มรายได้
วันที่ 21 มีนาคม 2566 นางสาวณัฐทิตา โพธิ์ศรีทอง ตัวแทนใน Smart Group และกรรมการบริหารบริษัท วี–เคลม เซอร์วิส จำกัด เปิดเผยว่า Smart Group เกิดจากการรวมตัวของผู้ให้บริการสำรวจภัยชั้นนำทั่วประเทศ ประกอบด้วย 1.บริษัท วี–เคลม เซอร์วิส จำกัด ดูแลลูกค้าพื้นที่กรุงเทพฯ 2.บริษัท ณัฏฐา (กฎหมายและสำรวจภัย) จำกัด ดูแลลูกค้ากรุงเทพฯและปริมณฑล 3.บริษัท ไอริส จำกัด ดูแลลูกค้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 4.บริษัท อีสเซย์เวย์ จำกัด ดูแลลูกค้าภาคตะวันออก
- ชง “วาระด่วน” รัฐบาลใหม่ ทุนจีนผวารถไฟไทย-จีนเปลี่ยนทิศ
- ด่วน 24 ส.ส.ประชาธิปัตย์ ยึดอำนาจโหวตเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่
- เปิดประวัติ ฟูอาดี้ พิศสุวรรณ ทีมประสานต่างประเทศพรรคก้าวไกล
5.บริษัท เมก้าออโต้เคลม จำกัด ดูแลลูกค้าชลบุรีและระยอง 6.ห้างหุ้นส่วนจำกัดเชียงราย ดูแลลูกค้าภาคเหนือ 7.ห้างหุ้นส่วนจำกัดพิษณุโลก ดูแลลูกค้าจังหวัดพิษณุโลกและนครสวรรค์ 8.บริษัท ช้าง 2020 จำกัด ดูแลลูกค้าภาคอีสาน 9.ห้างหุ้นส่วนจำกัดตองเก้าสำรวจภัย ดูแลลูกค้าภาคอีสาน และห้างหุ้นส่วนจำกัดอิมเมจเซ็นเตอร์ ดูแลลูกค้าภาคใต้ เป็นต้น
โดยแรกเริ่มนั้นมีความตั้งใจที่จะพัฒนาบริการสำรวจภัยในรูปแบบใหม่ ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย ตลอดจนเพิ่มคุณภาพงานบริการที่สามารถตอบโจทย์ของบริษัทประกันภัย ด้านความรวดเร็วในการส่งเจ้าหน้าที่สำรวจภัยออกไปให้บริการแก่ผู้เอาประกันภัยที่ประสบเหตุบนท้องถนน ทั้งยังช่วยประหยัดเวลาการทำงานของคอลเซ็นเตอร์ได้อีกด้วย โดยในรัศมีวงกลม 4 กิโลเมตร พนักงานสามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุไม่เกิน 20 นาที
สำหรับแผนงานคือยังคงมุ่งเน้นการให้บริการและการพัฒนาบุคลากร จากปัจจุบันที่มีพนักงานสำรวจภัยอยู่กว่า 300 คน มีพันธมิตรบริษัทประกันภัยจำนวน 4 บริษัทคือ 1.เมืองไทยประกันภัย 2.ไทยวิวัฒน์ประกันภัย 3.ฟอลคอนประกันภัย และ 4.สหมงคลประกันภัย ซึ่งคาดว่าจะทำให้รายได้จากการบริการเติบโตมากขึ้น นอกจากนี้ smart group ยังมีบริการอื่น ๆ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เอาประกันภัย ได้แก่ บริการรถยก, บริการตรวจสภาพรถยนต์, บริการรับแจ้งอุบัติเหตุ และบริการระบบรับแจ้งและเคลม ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ให้บริการทั่วประเทศ
ปัจจุบันนี้บริษัทมีงานเคลม 12,000 เคสต่อเดือน จากพนักงานสำรวจภัย 300 คน เฉลี่ยต่อคนทำได้ 40 เคลมต่อวัน ถือว่าค่อนข้างน้อย ฉะนั้น capacity ในการขยายงานของเรายังมีอีกมากที่จะเพิ่มจำนวนเคสเคลมในอนาคต โดยเรตค่าบริการในพื้นที่กรุงเทพฯ เฉลี่ยประมาณ 600-900 บาทต่อเคลม ส่วนต่างจังหวัดขึ้นอยู่กับระยะทาง นอกจากนี้ ในอนาคตเราก็ยังมีแผนขยายงานสำรวจภัยในฝั่งน็อนมอเตอร์อีกด้วย
“จะเห็นได้ว่างานสำรวจภัยในปัจจุบันมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาควบคุมคุณภาพการทำงาน โดยเฉพาะแอปต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขอใช้บริการ มีการแชร์รูปแบบการทำงานตลอดจนบุคลากรในเวลาที่มีปัญหา มีการจัดอบรมเทรนนิ่งให้แก่เจ้าหน้าที่อย่างสม่ำเสมอ อาศัยจุดแข็งของแต่ละสมาชิกเพื่อยกระดับการให้บริการ ซึ่งจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำงาน ตลอดจนสร้างบุคลากรใหม่ ๆ เพื่อรองรับการให้บริการกับบริษัทประกันภัย” นางสาวณัฐทิตา กล่าว
นายเกียรติรัตน์ ไหล่ไพบูลย์ ตัวแทนใน Smart Group และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ณัฏฐา (กฎหมายและสำรวจภัย) จำกัด กล่าวถึงการพัฒนาระบบและดึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติงานว่า ในอดีตปัญหาของบริษัทประกันภัยต่อการใช้ Outsource สำรวจภัยที่ผ่านมาคือ ไม่สามารถตรวจสอบตำแหน่งของพนักงานสำรวจภัยในพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุได้ ไม่ทราบการเดินทางของพนักงานว่าออกเดินทางจากที่ใด และจะไปถึงเมื่อไร เจ้าหน้าที่ไม่ใช้โปรแกรมหรือแอปในการปฏิบัติงาน จึงทำให้เสียเวลาในการทำงาน อีกทั้งเสี่ยงต่อการถูกร้องเรียนจากลูกค้า
นอกจากนี้ ยังใช้ระยะเวลากว่า 24 ชั่วโมงในการส่งงานเข้าระบบ จึงจะทราบข้อมูลเบื้องต้นของอุบัติเหตุรายนั้น ๆ และไม่สามารถควบคุมคุณภาพของงานได้ เนื่องจากความหลากหลายของผู้ให้บริการที่ให้บริการไปคนละทิศคนละทาง รวมถึงหากจำเป็นต้องมีการสื่อสารไปยังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ต้องติดต่อไปทุก ๆ ผู้ให้บริการซึ่งเสียเวลาเป็นอย่างมาก
ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่บริษัทประกันภัย และผู้เอาประกันภัย “Smart Group” จึงได้พัฒนาระบบและขั้นตอนในการปฏิบัติงานที่มีความกระชับ ติดตามการปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว โดยเริ่มจากโปรแกรมการจ่ายงานแบบอัตโนมัติ ทำให้สามารถกระจายงานได้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรม อีกทั้งยังสามารถจ่ายงานให้เจ้าหน้าที่ที่ใกล้ที่สุดออกไปปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็วด้วย
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังใช้แอปที่มีระบบติดตามตัว (GPS) ทำให้สามารถตรวจสอบตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ได้อย่างแม่นยำและตลอดเวลา ทั้งยังมีคอลเซ็นเตอร์ที่เดียวให้บริการได้ทุกพื้นที่ในประเทศไทย ทั้งในการรับงานและประสานงานแบบ One Stop Service และบริษัทประกันภัยสามารถล็อกอินเข้าระบบเองได้ ทำให้เห็นการเดินทางตลอดจนข้อมูลเบื้องต้นพร้อมรูปถ่ายได้แบบ Real-time
นอกจากนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจและลดปัญหาการร้องเรียนจากผู้เอาประกันภัย “Smart Group” ยังได้พัฒนาระบบการแจ้งเตือน โดยเมื่อรับแจ้งเหตุจากผู้เอาประกันภัย แล้วจะจัดส่ง SMS ให้แก่ผู้เอาประกันภัยในทันที เมื่อผู้เอาประกันภัยกดรับข้อความจะส่งตำแหน่งของผู้เอาประกันภัยเข้ามาในระบบ พร้อมแผนที่แสดงการเดินทางของพนักงาน
“ด้วยสมาชิกที่มากประสบการณ์ และมีความเป็นมืออาชีพ จึงมีการประชุมกำหนดรูปแบบการทำงานร่วมกัน เพื่อให้การบริการทรงคุณภาพ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีการแชร์ข้อมูลในกรณีติดขัดปัญหาต่าง ๆ พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่สำรวจภัยยังสามารถออก e-Document ได้จากในระบบ โดยจัดทำเป็นรูปแบบ PDF เพื่อส่งให้ลูกค้าในที่เกิดเหตุได้ทันที และกำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ AI ในการอ่านเอกสารมาใช้เพื่อให้การทำงานของเจ้าหน้าที่สะดวกรวดเร็วขึ้น อีกทั้ง “Smart Group” ยังให้บริการรับแจ้งเหตุแทนบริษัทประกันภัย ทั้งหลังเวลาการทำงาน หรือตลอด 24 ชั่วโมง ด้วย” นายเกียรติรัตน์กล่าวในที่สุด
จากความมุ่งมั่นในการให้บริการด้วยนวัตกรรมแห่งยุคดิจิทัล ตามสโลแกน “INNOVATIVE AND ABSOLUTE SOLUTION BY SMART GROUP” และความร่วมมือที่อยู่บนเป้าหมายเดียวกันต่อการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าจุดเริ่มต้นดังกล่าวจะเกิดการยกระดับงานบริการด้านประกันภัยอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน