ธปท.ลั่นทบทวนค่าธรรมเนียมชำระเงินทั้งระบบ ก่อนประกาศใช้

สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา
สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา

ธปท.ชูเป้าหมายยกระดับช่องทางใช้จ่ายทางดิจิทัลเป็น “ทางเลือกหลัก” ในการชำระเงินของประชาชน มุ่งลดใช้เงินสดระยะยาว รับต้องทบทวนโครงสร้างค่าบริหารชำระเงิน-ค่าธรรมเนียมให้เหมาะสมก่อนให้แบงก์นำไปใช้

วันที่ 3 เมษายน 2566 นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.มีเป้าหมายจะยกระดับให้การใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นทางเลือกหลักในการชำระเงินของประชาชน เพื่อมุ่งสู่การลดใช้เงินสดในระยะยาว ภายใต้แผนกลยุทธ์ระบบการชำระเงินปี 2565-2567

ซึ่งหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการ คือ การพิจารณาทบทวนโครงสร้างราคาของบริการชำระเงินและค่าธรรมเนียมการชำระเงินรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเงินสด เช็ก และบริการชำระเงินดิจิทัล ให้เหมาะสม ภายใต้หลักการ ดังนี้

1. สนับสนุนให้ลูกค้าสามารถใช้บริการชำระเงินได้เพิ่มขึ้นและทั่วถึง

2. สนับสนุนให้การพัฒนาบริการด้านการชำระเงินดิจิทัลสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับกลไกตลาด รวมทั้งรองรับบริการชำระเงินที่จะมีหลากหลายรูปแบบในอนาคต และที่สำคัญ ต้องตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม

Advertisment

ปัจจุบัน ธปท.อยู่ระหว่างพิจารณาวางแนวทางโครงสร้างค่าธรรมเนียมของทั้งระบบการชำระเงินให้สอดคล้องกับหลักการข้างต้นและเป็นสากล โดยจะนำมาใช้ประเมินเพื่อพิจารณาปรับปรุงและหารือกับผู้เกี่ยวข้อง ก่อนนำมาเป็นแนวทางให้สถาบันการเงินนำไปปรับใช้ต่อไป

ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงไทยและธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ มีแผนจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการกดเงินไม่ใช้บัตร ในอัตรา 10 บาทต่อครั้ง เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค. 2566 เป็นต้นไป โดยระยะแรกธนาคารกรุงไทยจะยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวให้ลูกค้า 1 ครั้งต่อเดือน อย่างไรก็ดี หลังจากมีกระแสไม่เห็นด้วยจากผู้ใช้บริการอย่างมาก ทำให้ธนาคารกรุงไทยประกาศเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมออกไปก่อน