JMART ผู้ถือหุ้นไฟเขียว เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่

ผู้ถือหุ้น JMART ไฟเขียวโหวตผ่านเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็นเจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์

วันที่ 5 เมษายน 2566 บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯว่า เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 บริษัทได้จัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 โดยสาระสำคัญได้มีมติอนุมัติการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทใหม่เป็น บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และชื่อภาษาอังกฤษคือ Jaymart Group Holdings Public Company Limited

การเปลี่ยนแปลงตราประทับของบริษัท
การเปลี่ยนแปลงตราประทับของบริษัท

ปัจจุบัน JMART มีสถานะเป็นโฮลดิ้ง คอมพานี หรือประกอบธุรกิจลงทุนในธุรกิจอื่น โดยมีธุรกิจหลักคือธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถืออุปกรณ์เสริมและแกดเจ็ต โดยมีร้านค้ามากกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ

จำหน่ายและจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือไม่เพียงแต่ในร้านค้า JMART เท่านั้น แต่ยังจำหน่ายผ่านเครือข่าย Synergy ในช่องทางไอที จังชั่นและซิงเกอร์ภายใต้ธุรกิจค้าปลีกมีพื้นที่ให้เช่าไอทีและห้างสรรพสินค้า 5 แห่ง ภายใต้บริษัทย่อย บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน)

นอกจากนี้ยังดำเนินธุรกิจในเครือร้านกาแฟภายใต้แบรนด์คาซ่า ลาแปงภายใต้ชื่อ บริษัท บีนส์แอนด์บราวน์ จำกัด

และดำเนินธุรกิจด้านการเงินโดยมุ่งเน้นไปที่การเงินรายย่อยสำหรับผู้บริโภค การติดตามและบริหารหนี้ที่ดำเนินการภายใต้ บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำด้านการติดตามและบริหารหนี้ของประเทศไทย

อีกทั้งมีธุรกิจการบริการด้านการเงินโดย บริษัท เคบีเจ แคปปิตอล จำกัด ที่ไม่ใช่มีเพียงสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคเท่านั้น แต่รวมถึงธุรกิจประกันภัยที่บริหารงานโดย บริษัท เจมาร์ทประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยการขยายเครือข่ายช่องทางในการจัดจำหน่าย

ปัจจุบันซิงเกอร์กลายเป็นหนึ่งในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจเครื่องใช้ในบ้านและเครื่องใช้ในเชิงพาณิชย์และสินเชื่อรถยนต์ในประเทศไทย

และมีการพัฒนาแอปพลิเคชั่นต่างๆ และการใช้ Fintech เข้ามาใช้ธุรกิจ พัฒนาโดยบริษัท “J Ventures” ซึ่งเป็นบริษัทที่จะเตรียม Digitization ให้กับกลุ่มบริษัท เพราะเชื่อว่า Disruption จะเกิดขึ้นในธุรกิจในระยะเวลาอันใกล้นี้ ที่ผ่านมาได้ทดสอบการใช้ระบบ Blockchain และการปล่อยสินเชื่อแบบ Digital Lending แล้ว

ทั้งนี้สำหรับ JMART วันที่ 3 เมษายน 256 มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 33,809.81 ล้านบาท ราคาหุ้น 23.20 บาท และเมื่อสิ้นปี 2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 14,741.59 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่1,794.96 ล้านบาท มีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน 4.74%