ก.ล.ต.ไฟเขียว TPL เดินหน้าระดมทุนเตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ

นายภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL

สำนักงาน ก.ล.ต. ได้อนุมัติ บมจ.ไทยพาร์เซิล หรือ TPL ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทั่วไทยเดินหน้าเตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ (IPO) หาโอกาสขยายขีดความสามารถในส่วนของศูนย์กระจายสินค้า-รถขนส่ง

วันที่ 12 พฤษภาคม 2566 นายภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทได้มีการปรับตัวและพัฒนาองค์กรอยู่เสมอ แม้แต่ในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา บริษัทก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างสูงสุด ทำให้บริษัทสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมและสามารถหาฐานลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาใช้บริการขนส่งสินค้าเพิ่มได้อีก

ดังนั้น เราจึงมองหาโอกาสที่จะขยายขีดความสามารถในส่วนของศูนย์กระจายสินค้า รถขนส่ง และระบบการจัดการงานขนส่ง เพื่อให้สามารถรองรับจำนวนลูกค้าที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการให้สามารถบริการลูกค้าได้อย่างครบวงจรมากขึ้น (Fulfillment Service)

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ก.ล.ต.ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างการนับถอยหลัง เพื่อเข้าสู่กระบวนการเสนอขายหุ้นอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้

โดยบริษัทให้บริการธุรกิจขนส่งสินค้า เริ่มจัดตั้งในปี 2547 ซึ่งในปี 2548 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น บจก.พัสดุภัณฑ์ไทย และเปิดให้บริการศูนย์รับและกระจายสินค้าประเภท B2B ในปีเดียวกัน หลังจากนั้นขยายศูนย์รับและกระจายสินค้าจำนวน 12 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ

และได้เริ่มรับลูกค้าประเภท C2C โดยในปี 2555 ประสบความสำเร็จในการสร้าง HUB กระจายสินค้าครบทุกภูมิภาค และพัฒนาต่อเนื่อง กระทั่งปี 2561 เป็นผู้บริการรายแรก ๆ ที่ให้บริการแบบ Cash on Delivery หรือ COD และ E-Payment

โดยเริ่มจากกลุ่มลูกค้า E-Commerce นอกจากนี้ ในปี 2564 ทางบริษัทได้เปลี่ยนชื่อเป็น บมจ. ไทยพาร์เซิล และจนถึงปัจจุบันบริษัทมีสำนักงานและสาขาทั้งหมด 129 สาขาทั่วประเทศ พนักงานมากกว่า 700 คน จำนวนรถขนส่งในระบบ 563 คัน และมีปริมาณสินค้าที่ขนส่งในปีที่ผ่านมากว่า 930,000 ชิ้น มีน้ำหนักรวมสูงถึง 67,600 ตัน

TPL ให้บริการจัดส่งพัสดุทุกขนาด แต่มีความโดดเด่นในด้านการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ น้ำหนักเยอะ (Odd size/Oversize) ในประเทศไทย จึงได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการมาอย่างยาวนาน ขนส่งสินค้าที่ได้ตรงตามกำหนดเวลา ราคาเหมาะสม สินค้าคงสภาพสมบูรณ์ไร้ความเสียหายเมื่อถึงมือผู้รับ ทั้งยังสามารถตรวจเช็กสถานะขนส่งได้แบบ Real-time