สศช.ห่วงบุคลากรดิจิทัล-ไอทีขาดแคลน คนรุ่นใหม่อยากได้ค่าตอบแทนสูง-ชีวิตสมดุล

สศช. ห่วงบุคลากรดิจิทัล-ไอทีขาดแคลน
Photo : Pixabay

สศช.ชี้การจ้างงาน-อัตราว่างงาน ไตรมาสแรกปีนี้ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง คนมีงานทำมากขึ้นทั้งภาคเกษตรและนอกภาคเกษตร โดยเฉพาะเซ็กเตอร์โรงแรม เตือนให้ความสำคัญการจ้างงานระยะถัดไปส่อขาดแคลนบุคลากรด้านดิจิทัล-ไอที ขณะที่ภาคเกษตรส่อได้รับผลกระทบจาก “เอลนีโญ” ที่ทำให้เกิดภัยแล้ง พร้อมเผยผลสำรวจคนรุ่นใหม่ 15-25 ปี อยากทำงานได้ค่าตอบแทนสูง-มีสมดุลชีวิต

วันที่ 22 พฤษภาคม 2566 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ กล่าวว่า ในไตรมาส 1 ปี 2566 นี้ สถานการณ์การจ้างงาน ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยจำนวนผู้มีงานทำอยู่ที่ 39.6 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 2.4% ซึ่งเพิ่มขึ้นทั้งการจ้างงานในภาคเกษตร ที่มีการทำนาปรังเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และนอกภาคเกษตร โดยเฉพาะในส่วนของโรงแรมและภัตตาคาร สอดรับกับการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดีขึ้น

ขณะที่ชั่วโมงการทำงานขณะนี้เข้าสู่ภาวะปกติ ภาพรวมเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 41.1 ชม./สัปดาห์ สูงกว่าไตรมาสเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 40.8 ชม./สัปดาห์ โดยในส่วนของภาคเอกชนอยู่ที่ 44.3 ชม./สัปดาห์

“สำหรับผู้เสมือนว่างงาน ในไตรมาสนี้เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วปรับตัวลดลง 11.3% โดยมีผู้เสมือนว่างงานอยู่ที่ 3.4 ล้านคน แต่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา”

ด้านค่าจ้างแรงงาน ขณะนี้มีการปรับตัว ขยายตัวดีขึ้น โดยเฉลี่ยในภาพรวมเพิ่มขึ้นทั้งภาครัฐและเอกชน โดยค่าจ้างเฉลี่ยภาพรวมอยู่ที่ประมาณ 15,118 บาทต่อคนต่อเดือน ส่วนภาคเอกชนเฉลี่ยอยู่ที่ 13,722 บาทต่อคนต่อเดือน

นายดนุชากล่าวว่า อัตราการว่างงานก็ปรับตัวดีขึ้น โดยอัตราการว่างงานปรับลดลงต่อเนื่อง นับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2564 ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 1.05% แต่ถ้าดูการว่างงานในระบบในไตรมาส 1 ปี 2565 จำนวนผู้ว่างงานในระบบขยับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1.9% ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทต่าง ๆ แถลงผลประกอบการ และมีการแจกโบนัสกันแล้ว ทำให้คนทำงานในโรงงานต่าง ๆ ส่วนหนึ่ง อาจจะมีการย้ายงานไปยังบริษัทที่ผลประกอบการดี

ส่วนผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนลดลงอยู่ที่ 17.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า รวมถึงผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อนก็ปรับลดลงเช่นกัน

“การว่างงานในทุกระดับการศึกษา ปรับตัวลดลงทั้งหมด ทั้งอาชีวะ วิชาชีพขั้นสูง และอุดมศึกษา ส่วนการว่างงานระยะยาวก็ปรับดีขึ้นเช่นกัน ฉะนั้น โดยรวมจะเห็นว่าขณะนี้เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง

ประกอบกับจำนวนผู้มีงานทำมากขึ้น และอัตราการว่างงานในระบบลดลงเรื่อย ๆ ทำให้การบริโภคภายในประเทศยังขยายตัวได้”

เลขาธิการ สศช. กล่าวด้วยว่า ในระยะถัดไปต้องให้ความสำคัญ จะมีความต้องการของแรงงานที่อยู่ในเซ็กเตอร์ดิจิทัลกับไอซีทีมากขึ้น แต่ว่าสถาบันการเงินยังผลิตบุคลากรได้ประมาณ 14,000 คน ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทต่าง ๆ มีการปรับตัวใช้ระบบดิจิทัลเข้ามาบริหารองค์กรมากขึ้น ฉะนั้นบุคลากรด้านนี้ก็จะมีความสำคัญและมีความต้องการในระยะถัดไป”

ขณะที่รายได้ภาคเกษตรและการจ้างงานภาคเกษตรระยะถัดไป อาจจะได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งจะมีปัญหาภัยแล้ง ดังนั้น อาจจะต้องมีมาตรการเตรียมไว้ช่วยเหลือภาคเกษตรในระยะถัดไป

นอกจากนี้ พฤติกรรมการเข้าสู่การทำงานของบุคลากรรุ่นถัดไป ซึ่งมีการสำรวจจากภาคเอกชน จากเยาวชนอายุประมาณ 15-25 ปี กลุ่มตัวอย่างกว่า 19,000 คน พบว่าส่วนใหญ่ ต้องการงานที่มีค่าตอบแทนสูง และสอดคล้องกับความต้องการ หรือความชอบของตัวเอง รวมถึงให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลของชีวิต

“ฉะนั้นในช่วงถัดไป ผู้ประกอบการอาจจะต้องปรับระบบการจ้างงานให้ยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของคนที่จะเข้ามาทำงาน แต่อันนี้ต้องทำด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง เพราะว่าจะกระทบกับผู้ที่ทำงานอยู่เดิมด้วย ฉะนั้นต้องพยายามบาลานซ์ส่วนนี้ให้ดี” เลขาธิการ สศช.กล่าว