อลิอันซ์กรุ๊ป Q1 กำไรโต 24% ธุรกิจประกันชีวิตในไทยกวาดเบี้ย 8.6 พันล้าน

กลุ่มอลิอันซ์ ไตรมาส 1 ปี 2566 กำไรดำเนินงานเติบโต 24.2% แตะ 3.7 พันล้านยูโร กลุ่มธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ-กลุ่มธุรกิจประกันทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ดในสหรัฐอเมริกาแข็งแกร่ง ด้านธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย กวาดเบี้ยรับรวม 8,696 ล้านบาท เติบโต 8% จากทุกช่องทางขาย มีเบี้ยรับปีแรกแตะ 1,796 ล้านบาท สูงสุดในรอบหลายปี

วันที่ 30 พฤษภาคม 2566 นายโทมัส วิลสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต (AZAY) เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มต้นปี 2566 ได้อย่างสดใส โดยมีผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 ด้วยเบี้ยประกันชีวิตรับรวม 8,696 ล้านบาท เติบโต 8% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY)

โทมัส วิลสัน
โทมัส วิลสัน

ในขณะที่เบี้ยประกันรับปีแรกเติบโต 21% อยู่ที่ 1,796 ล้านบาท โดยมาจากช่องทางตัวแทน 711 ล้านบาท เติบโต 33% ช่องทางขายผ่านธนาคาร 637 ล้านบาท เติบโต 23% ในขณะที่ช่องทางขายตรง 358 ล้านบาท เติบโต 6%

จากตัวเลขการเติบโตที่แข็งแกร่งในทุกช่องทาง ไม่เพียงพิสูจน์ความสำเร็จของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังสะท้อนถึงความสำเร็จในการมุ่งมั่นพัฒนาคน โดยเฉพาะตัวแทนฝ่ายขายของบริษัทที่ได้รับการอบรมที่มีคุณภาพ มีการจัดกิจกรรมการแข่งขันที่สร้างขวัญกำลังใจ สร้างความฮึกเหิมในการขาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทมีโครงการ “The Franchise Builder” กิจกรรมที่ช่วยสร้างทีมงานใหม่ สร้างรีครูตเมนต์ที่มีคุณภาพ และกระตุ้นให้เกิดการขาย ทำให้ช่องทางตัวแทนสามารถสร้างเบี้ยประกันรับปีแรกได้เติบโตสูงสุดของไตรมาส 1 ในรอบหลายปี

“เราภาคภูมิใจกับผลงานที่ดีเยี่ยมในไตรมาส 1 ปีนี้ ด้วยศักยภาพของทีมงานทุกฝ่าย จึงมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันให้บริษัทเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง สามารถพิชิตยอดเบี้ยประกันรับรวมสิ้นปี 3.77 หมื่นล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับปีแรก 7.7 พันล้านบาท ก้าวสู่การเป็นผู้นำได้อย่างมั่นคง” นายโทมัสกล่าว

ขณะเดียวกัน กลุ่มอลิอันซ์ ผู้ถือหุ้นหลักของ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก 2566 มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 3.9% เป็น 4.60 หมื่นล้านยูโร โดยได้แรงหนุนจากกลุ่มธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด ซึ่งได้รับแรงหนุนจากราคาและปริมาณที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ตามยังมีผลกระทบจากกลุ่มธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพที่ลดลง โดยส่วนใหญ่มาจากปริมาณการชำระเบี้ยประกันแบบครั้งเดียวที่ลดลง และการลดลงของรายได้จากสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ในส่วนธุรกิจการจัดการสินทรัพย์

โดยมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 24.2% เป็น 3.7 พันล้านยูโร (ไตรมาส 1 ปี 2565 อยู่ที่ 3 พันล้านยูโร) เนื่องจากผลประกอบการที่สูงขึ้นของการดำเนินงานในสหรัฐอเมริกาในกลุ่มธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ รวมถึงบริการประกันภัยที่แข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจประกันทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด

อัตราส่วนเงินกองทุนเพื่อความมั่นคง (Solvency II Capitalization) อยู่ที่ 206% สิ้นไตรมาส 1 ของปี 2565 เทียบกับ 201% สิ้นไตรมาส 4 ปี 2565 เมื่อนำมาตรการเปลี่ยนผ่านสำหรับข้อกำหนดทางเทคนิคมาพิจารณาร่วมด้วย อัตราส่วนเงินกองทุนเพื่อความมั่นคงจะอยู่ที่ 232% สิ้นไตรมาสแรกของปี 2566 เทียบกับ 230% สิ้นปี 2565

โอลิเวอร์ เบเทอร์
โอลิเวอร์ เบเทอร์

นายโอลิเวอร์ เบเทอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอลิอันซ์ กล่าวว่า ภูมิใจกับผลกำไรจากการดำเนินงานที่สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ทักษะ และการดำเนินการตามกลยุทธ์อย่างสม่ำเสมอ นี่เป็นอีกครั้งที่เราได้รับอานิสงส์จากส่วนผสมทางธุรกิจที่หลากหลาย

เรามีการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากในกลุ่มประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ดจากการตั้งราคาที่ดี การรักษาวินัยการรับประกันภัยอย่างต่อเนื่อง และการมุ่งเพิ่มผลผลิตให้มากยิ่งขึ้น การทำกำไรอย่างแข็งแกร่งของเราและการใช้ประโยชน์จากเงินทุน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือที่ลูกค้าสามารถสร้างหลักประกันอนาคตที่มั่นคงด้วยได้ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอน