ก.ล.ต. เปิดเฮียริ่งการออกกฎลำดับรองสำหรับ พ.ร.ก. นิติบุคคลเฉพาะกิจ

ก.ล.ต.

สำนักงาน ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นจนถึงวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 เกี่ยวกับการออกกฎลำดับรองสำหรับพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจ เพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. 2540 (พ.ร.ก.นิติบุคคลเฉพาะกิจฯ) เพื่อให้ภาคเอกชนมีแนวทางในการดำเนินการที่ชัดเจนและปฏิบัติตามกฎหมายได้ถูกต้อง

วันที่ 9 มิถุนายน 2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานว่า ตามที่ พ.ร.ก.นิติบุคคลเฉพาะกิจฯ ให้อำนาจคณะกรรมการ ก.ล.ต.ออกกฎลำดับรองเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์รองรับเกี่ยวกับนิยามสิทธิเรียกร้องที่จะมีขึ้นในอนาคต โดยให้ชำระหนี้เป็นเงินที่ก่อให้เกิดกระแสรายรับ (future receivables)

รวมถึงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวแทนเรียกเก็บและรับชำระหนี้ ในปัจจุบันยังไม่มีหลักเกณฑ์รองรับในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อให้ภาคเอกชนมีแนวทางในการดำเนินการที่ชัดเจนและปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้องครบถ้วน สำนักงาน ก.ล.ต.จึงเสนอออกหลักเกณฑ์เพิ่มเติม ซึ่งมีสาระสำคัญโดยสรุป ดังนี้

(1) กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับนิยาม future receivables ตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.ก.นิติบุคคลเฉพาะกิจฯ

เพื่อให้ภาคเอกชนมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการนำ future receivables มาใช้เป็นทรัพย์สินสำหรับการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์

(2) กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับโอนสินทรัพย์ที่เป็นสิทธิเรียกร้องและการเปลี่ยนตัวแทนเรียกเก็บและรับชำระหนี้ไปยังลูกหนี้ ตามมาตรา 15 วรรคสอง แห่ง พ.ร.ก.นิติบุคคลเฉพาะกิจฯ เพื่อให้ภาคเอกชนมีแนวทางในการแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับโอนสินทรัพย์ที่เป็นสิทธิเรียกร้องและการเปลี่ยนตัวแทนเรียกเก็บและรับชำระหนี้ไปยังลูกหนี้ ที่ชัดเจนและเป็นมาตรฐานเดียวกัน

ทั้งนี้ ก.ล.ต.ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นเรื่อง การออกกฎลำดับรองสำหรับพระราชกำหนดนิติบุคคล

เฉพาะกิจเพื่อการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. 2540 ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.

https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=914 ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจ

สามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail : [email protected] จนถึงวันที่ 10 กรกฎาคม 2566

หมายเหตุ : การแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (Securitization) หมายถึง การรับโอนสินทรัพย์เพื่อทำการออกหลักทรัพย์จำหน่ายแก่ผู้ลงทุน โดยกำหนดให้ผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหลักทรัพย์ขึ้นอยู่กับกระแสรายรับที่เกิดจากสินทรัพย์ที่รับโอนมา